List of content
สิ่งแรก ๆ ที่ควรรู้ก่อนเริ่มเทรด Forex คือ การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับกลไกการทำงานของตลาด การส่งคำสั่งซื้อขาย ซึ่งคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex มีหลายประเภท แตกต่างไปตามการใช้งานของเทรดเดอร์ แต่คำสั่งซื้อขานที่ทุกท่านควรศึกษามากที่สุด เพราะมักจะส่งผลต่อการกำไรของทุกคน คือ “Pending Order” มันคืออะไร ใช้งานอย่างไร Thaiforexreview จะพาทุกท่านไปติดตามกันครับ
อันดับแรก ทุกคนต้องรู้จักก่อนว่า “Order” คืออะไรครับ ซึ่งมันก็คือ ชุดคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ในนามของเทรดเดอร์ โดย Order จะมีหลายประเภท
Pending Order เป็นหนึ่งในประเภทของ Order ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการส่งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าให้กับเทรดเดอร์ ณ ราคาใดราคาหนึ่งที่เทรดเดอร์กำหนดไว้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่เฝ้าหน้าจอ ทำให้เทรดเดอร์ไม่พลาดโอกาสสำคัญในการทำกำไร ซึ่ง Pending Order จะทำงานและส่งคำสั่งซื้อขายตามที่เทรดเดอร์ตั้งค่าไว้ หากไม่ครบตามเงื่อนไข คำสั่งก็จะไม่ถูกเปิดใช้งานครับ ดังนั้น มันจึงช่วยลดโอกาสสูญเสียได้ด้วยเช่นกัน
Pending Order มีคำสั่งแยกไปอีก 2 ประเภท คือ Limit Order และ Stop Order ซึ่งก็จะมีการใช้งานที่ต่างกันใน 2 คำสั่ง ดังนี้
Limit Order เป็นการออกคำสั่งซื้อขายในทิศทางที่สวนทางกับการทำกำไร โดยสามารถแบ่งได้เป็น Limit Order ฝั่ง Buy และฝั่ง Sell ดังนี้ครับ
Buy Limit คือ การตั้ง Pending Order โดยคาดหวังคำสั่งซื้อ (Buy Position) เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดเพื่อทำกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวสูงขึ้น
ตัวอย่างเช่น คู่เงิน USD/JPY เราคาดว่า คู่เงินดังกล่าวจะมีแนวโน้มขาขึ้นในอนาคต แต่ ณ เวลาปัจจุบันราคาคู่เงินอยู่ที่ 136.044 เราก็มักจะรอซื้อที่ราคาดี ๆ ที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันก่อน ซึ่งในการวิเคราะห์ ราคาที่ควรเข้าซื้อ คือ 135.400 นั่นหมายความว่า เราจะตั้งคำสั่ง Buy Limit ที่จุด 135.400 ซึ่งหากราคามีการเคลื่อนที่ลงมาถึงจุด 135.400 คำสั่งซื้อของเราก็จะทำการออกออเดอร์ Buy ให้เราในทันที
ในทางตรงกันข้าม หากราคาไม่ได้เคลื่อนที่ลงมาถึงจุดที่เราตั้งไว้ คำสั่งดังกล่าวก็จะไม่ทำงาน เพราะไม่ครบตามเงื่อนไขนั่นเองครับ
จากภาพเราต้องการ Buy คู่เงินดังกล่าว แต่ต้องการในราคาที่ดีกว่า คือ ราคาข้างล่าง
Sell Limit คือ การตั้ง Pending Order โดยคาดหวังคำสั่งขาย (Sell Position) เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดเพื่อทำกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวในทิศทางลง
ตัวอย่างเช่น คู่เงิน USD/JPY เราคาดว่า คู่เงินดังกล่าวจะมีแนวโน้มขาลงในอนาคต แต่ ณ เวลาปัจจุบันราคาคู่เงินอยู่ที่ 136.009 เราก็มักจะรอออกออเดอร์ที่ราคาดี ๆ ที่สูงกว่าราคาปัจจุบันก่อน ซึ่งในการวิเคราะห์ ราคาที่ควรออกออเดอร์ คือ 136.500 นั่นหมายความว่า เราจะตั้งคำสั่ง Sell Limit ที่จุด 136.500 ซึ่งหากราคามีการเคลื่อนที่ขึ้นมาถึงจุด 136.500 คำสั่งของเราก็จะทำการออกออเดอร์ Sell ให้เราในทันที และเช่นเดียวกัน หากราคาไม่ได้มีการปรับตัวขึ้นมาถึงจุดที่ตั้งไว้ คำสั่งก็จะไม่ถูกเปิดใช้งานครับ
จากภาพเราต้องการ Sell คู่เงินดังกล่าว แต่ต้องการในราคาที่ดีกว่า คือ ราคาข้างบน
Stop Order เป็นการออกคำสั่งซื้อขายในทิศทางเดียวกับการทำกำไร โดยสามารถแบ่งได้เป็น Stop Order ฝั่ง Buy และฝั่ง Sell เช่นเดียวกัน ดังนี้ครับ
Buy Stop คือ การตั้ง Pending Order โดยคาดหวังคำสั่งซื้อ (Buy Position) เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำที่สุด เพื่อทำกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวสูงขึ้น
ตัวอย่างเช่น คู่เงิน USD/JPY เราคาดว่า คู่เงินดังกล่าวจะมีแนวโน้มขาขึ้นในอนาคต แต่ ณ เวลาปัจจุบันราคาคู่เงินอยู่ที่ 135.955 เราก็มักจะรอราคาที่แม่นยำกว่านี้ (อาจจะทะลุแนวต้าน) เพื่อยืนยันแนวโน้ม ซึ่งก็คือ 136.326 ดังนั้น เราจึงต้องตั้งคำสั่ง Buy Stop ที่จุด 136.326 ซึ่งหากราคามีการเคลื่อนที่ขึ้นไปถึงจุดดังกล่าว คำสั่งซื้อของเราก็จะทำการออกออเดอร์ Buy ให้เราในทันทีครับ เช่นเดียวกัน หากไม่ครบตามเงื่อนไข คำสั่งก็จะไม่ถูกเปิดใช้งานครับ
จากภาพเราต้องการ Buy คู่เงินดังกล่าว แต่ต้องการในราคาที่แม่นยำกว่า คือ ราคาข้างบน
Sell Stop คือ การตั้ง Pending Order โดยคาดหวังคำสั่งขาย (Sell Position) เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำที่สุด เพื่อทำกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวในทิศทางลง
ตัวอย่างเช่น คู่เงิน USD/JPY เราคาดว่า คู่เงินดังกล่าวจะมีแนวโน้มขาลงในอนาคต แต่ ณ เวลาปัจจุบันราคาคู่เงินอยู่ที่ 110.100 เราก็มักจะรอราคาที่แม่นยำกว่านี้ (อาจจะทะลุแนวรับ) เพื่อยืนยันแนวโน้ม ซึ่งก็คือ 110.000 ดังนั้น เราจึงต้องตั้งคำสั่ง Sell Stop ที่จุด 110.000 ซึ่งหากราคามีการเคลื่อนที่ลงมาถึงจุดดังกล่าว คำสั่งของเราก็จะทำการออกออเดอร์ Sell ให้เราในทันทีครับ เช่นเดียวกัน หากไม่ครบตามเงื่อนไข คำสั่งก็จะไม่ถูกเปิดใช้งานครับ
จากภาพเราต้องการ Sell คู่เงินดังกล่าว แต่ต้องการในราคาที่แม่นยำกว่า คือ ราคาข้างล่าง
หากจะกล่าวโดยสรุปง่าย ๆ Pending Order ก็คือ “คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า” ที่ช่วยให้เทรดเดอร์ไม่พลาดโอกาสในการทำกำไร โดยคำสั่งดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) Limit Order ซึ่งเป็นการออกคำสั่งในทิศทางตรงกันข้ามกับการทำกำไร รอจุดที่ราคาต่ำค่อยออกออเดอร์เพื่อทำกำไรในอนาคต และ 2) Stop Order ที่เป็นการออกคำสั่งในทิศทางเดียวกับการทำกำไร รอจุดยืนยันแนวโน้มแล้วค่อยออกออเดอร์นั่นเองครับ
___________________________________________________
สุดท้ายนี้ การลงทุนทุกรูปแบบล้วนมีความเสี่ยง อยากให้คุณศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์นั้นให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน และหากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตาม ThaiForexReview
ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนได้ที่ : News
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ : Blogs
รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers
Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด
การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex
ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น
ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ
การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex
หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน
ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล
ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด