Spread (ค่าสเปรด) คืออะไร และมีกี่ประเภท

หากคุณเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสมกับตัวเองในการเทรด ปัจจัยสำคัญที่จำเป็นต้องเรียนรู้ คือ ค่าสเปรด (Spread) เพราะหากนักลงทุนรู้ถึงกลไกการทำงานของค่าสเปรดก็จะสามารถวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ ในบทความนี้ ทีมงาน ThaiForexReview จึงได้รวบรวมสิ่งที่นักลงทุนควรทราบเกี่ยวกับค่าสเปรดมาไว้ให้อย่างครบถ้วน ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลยครับ

สเปรด (Spread) คือ ความแตกต่างหรือช่องว่างของราคาขาย (Bid) และราคาซื้อ (Ask) ของสินทรัพย์ในตลาด Forex หรือค่าธรรมเนียมในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ซึ่งจะพบเจอคำนี้ได้บ่อยในอุตสาหกรรมการเงิน

โดยโบรกเกอร์ Forex จะมีราคาที่แตกต่างกันในแต่ละคู่เงิน ซึ่งราคาที่เรียกนั้นว่า ราคา Bid และราคา Ask ส่วน Bid เป็นราคาที่คุณสามารถ Sell โดยขึ้นอยู่กับ Base Currency ขณะที่ Ask เป็นราคาที่คุณซื้อได้ตาม Base Currency โดยส่วนต่างของราคาทั้ง 2 นี้เรียกว่า Spread ซึ่ง Spread ก็คือ วิธีการที่โบรกเกอร์จะทำกำไรได้จากเรา โดยเฉพาะโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชันจากการซื้อขาย แทนที่จะทำการชาร์จค่าธรรมเนียมต่างหาก ต้นทุนจะถูกบวกเข้าไปในราคา Buy และ Sell ที่ลูกค้าได้รับแล้วตามค่าเงินที่คุณซื้อขาย ดังนั้นทุกครั้งที่ออกออเดอร์และเสียค่า Spread แปลว่าตัวเลขออเดอร์จะติดลบเสมอ

ประเภทของ Spread ที่คุณเห็นในโปรแกรม Forex ขึ้นอยู่กับโปรแกรม และวิธีการทำกำไรของโบรกเกอร์ ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สเปรดแบบคงที่ และสเปรดแบบลอยตัว หรือเรียกว่า สเปรดแบบแปรผัน

1. สเปรดแบบคงที่

สเปรดแบบคงที่ (Fixed Spread) คือ สเปรดที่มีค่าคงเดิมไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร ณ เวลาใดก็ตาม ราคาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะของตลาดในช่วงนั้น ๆ โดยโบรกเกอร์ Forex จะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุม หรือเป็นผู้กำหนดค่าสเปรดคงที่ขึ้นมาเท่านั้น

ข้อดี-ข้อเสียของสเปรดแบบคงที่

ข้อดี

1. ใช้เงินทุนน้อยกว่าในการออกออเดอร์
2. เทรดเดอร์สามารถคำนวณต้นทุนการทำธุรกรรมได้แม่นยำมากขึ้น
3. เทรดเดอร์มั่นใจว่าเงินทุนจะเพียงพอเมื่อเปิดการซื้อขาย

ข้อเสีย

2. สเปรดแบบลอยตัว

สเปรดลอยตัว (Floating) หรือสเปรดแปรผัน (Variable) คือ สเปรดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยจะผันผวนตามสภาวะของตลาด ณ เวลานั้น ๆ เป็นสเปรดที่ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากเป็นการส่งต่อราคาจากผู้ให้บริการสภาพคล่องไปยังเทรดเดอร์โดยตรง และไม่ถูกแทรกแซงจากทางโบรกเกอร์ Forex เอง โดยปกติสเปรดจะมีการเคลื่อนไหวขึ้นลงมาก ๆ ในช่วงที่มีข่าวสำคัญ เช่น การเผยแพร่ข่าว NFP, อัตราการว่างงาน และข่าวอื่น ๆ ที่ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดลดลง

ข้อดี-ข้อเสียของสเปรดแบบลอยตัว

ข้อดี

1. สเปรดมีการผันผวนตามสภาวะตลาดช่วยลดปัญหารีโควต
2. ราคามาจากผู้ให้บริการหลายราย จึงทำให้มีความน่าเชื่อถือ
3. ราคาที่ได้จะดีกว่าสเปรดแบบคงที่ เนื่องจากมีการแข่งขันจากผู้ให้บริการหลายราย

ข้อเสีย

1. ไม่เหมาะกับนักเก็งกำไร สเปรดที่กว้างขึ้นอาจทำให้สูญเสียกำไรจากการเทรดแบบ Scalper อย่างรวดเร็ว
2. ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์สายข่าว เพราะในสภาวะที่ตลาดผันผวนมากสเปรดอาจสูงขึ้น จนเปลี่ยนจากการเทรดได้กำไรกลายเป็นการสูญเสียได้ในพริบตา

สเปรดคงที่จะถูกกำหนดโดยโบรกเกอร์ Forex ที่ดำเนินการในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่องหรือโบรกเกอร์ Forex ประเภท Dealing Desk (DD) ข้อมูลการซื้อขายของเทรดเดอร์จะถูกรวบรวมไว้ และจะมีพนักงานคอยตรวจสอบข้อมูลของเทรดเดอร์อยู่เสมอ เมื่อเทรดเดอร์ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ Forex ก็จะทำการจับคู่กับอีกฝั่งหนึ่งให้เรานั่นเองครับ

สเปรดแปรผันจะถูกกำหนดโดยโบรกเกอร์ Forex ประเภท Non-Dealing Desk (NDD) โบรกเกอร์จะรับราคาคู่สกุลเงินจากผู้ให้สภาพคล่องหลายราย และทำการส่งต่อราคาเหล่านี้ให้กับเทรดเดอร์โดยปราศจากการแทรกแซงจาก Dealing Desk ซึ่งหมายความว่า โบรกเกอร์ Forex ไม่สามารถควบคุมสเปรดได้ โดยสเปรดจะกว้างขึ้นหรือแคบลง ตามอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงิน รวมทั้งความผันผวนของตลาดโดยรวมนั่นเองครับ

Spread จะวัดเป็น Pips ซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่สุดของการเคลื่อนไหวของราคาค่าเงิน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโบรกเกอร์ Forex ได้เพิ่มจุดทศนิยมเพิ่มอีก 1 จุดเรียกว่า Points โดยเราจะดูค่าเงินที่เป็นที่นิยมได้แก่ ค่าเงิน EUR/USD ซึ่งจะเท่ากับราคา Bid และราคา Ask ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ในวงกลม Sell คือราคา 1.08725 และ ราคา Buy คือ 1.08733 จำนวนทศนิยมในภาพ จะเห็นว่า 72 กับ 73 คือตัวเลขตัวใหญ่เพื่อให้สามารถคำนวณความแตกต่างของ Pip ได้ ตามตัวอย่าง เลขยกกำลังตัวเล็ก คือ 5 และ 3 คือ Point ซึ่งเป็นทศนิยมหลักที่ 5 สำหรับการบอก Point

สำหรับค่าเงินบางค่าเงินก็จะมี จำนวน Pip และ จำนวน Point แตกต่างกัน เช่นค่าเงิน USD/JPY ซึ่งจะมี Pip เพียง 2 pips และถ้าหากบางโบรกเกอร์จะมี 3 จุด หลักที่เพิ่มมาก็จะเป็น Point ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ในตัวอย่างข้างต้นเป็นค่าเงิน USD/JPY ซึ่งมีราคา 150.712 และ 150.720 จะเห็นว่า จำนวนทศนิยมมี 3 ตัว นั่นคือ Point แสดงว่า Spread ก็จะแจกแจงได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Spread ของค่าเงิน USD/JPY นั้นไม่ถึง 1 คือ 0.008 หรือ 8 points เท่านั้นเอง Spread แบบนี้ก็จะทำให้การเทรดของเทรดเดอร์ดีขึ้น เพราะว่าต้นทุนนั้นต่ำลง แต่ว่าถ้าหากไม่รู้จักหวะการเข้าเทรดก็จะขาดทุนเช่นเดียวกันครับ

สเปรดเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่บ่งบอกสภาวะและสภาพคล่องของตลาดได้ หากตลาด Forex อยู่ในสภาวะปกติค่าสเปรดจะไม่สูงมาก แต่หากสเปรดสูงแสดงว่า ขณะนั้นตลาดมีสภาพคล่องน้อย สเปรดเป็นวิธีที่โบรกเกอร์ Forex ใช้ในการทำเงิน นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมในส่วนอื่น ๆ แทนที่จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแยกต่างหากสำหรับการซื้อขาย ก็จะรวมค่าใช้จ่ายในราคาซื้อและขายของคู่สกุลเงินที่เทรดเดอร์ต้องการซื้อขายแทน

ค่าสเปรดถือเป็นต้นทุนของนักเทรดอีกอย่างหนึ่ง หากโบรกเกอร์ที่นักลงทุนใช้อยู่มีสเปรดสูงก็จะทำให้โอกาสในการทำกำไรน้อยลง ดังนั้นการเลือกโบรกเกอร์ที่สเปรดต่ำ ก็จะช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นนั่นเองครับ

โบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำ

คำถามที่พบบ่อย ค่าสเปรด Forex คืออะไร ?

Q : Spread ในตลาด Forex คืออะไร ?

👉 สเปรด (Spread) คือ ความแตกต่างหรือช่องว่างของราคาขาย (Bid) และราคาซื้อ (Ask) ของสินทรัพย์ในตลาด Forex

Q : 1 Pip มีกี่จุด ?

👉 1 pip จะมีค่าเท่ากับ 10 จุดเสมอ

Q : สเปรดลอยตัว คืออะไร ?

👉 คือ สเปรดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยจะผันผวนตามสภาวะของตลาด ณ เวลานั้น ๆ เป็นสเปรดที่ไม่สามารถควบคุมได้

Q : สเปรดคงที่ คืออะไร ?

👉 คือ สเปรดที่มีค่าคงเดิมไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร ณ เวลาใดก็ตาม

บทความที่เกี่ยวข้อง

• แนะนำ 5 โบรกเกอร์ IB Forex ที่คุ้มที่สุดสำหรับ Partner 2023
• รีวิว IUX Markets ดีไหม?! รวมสิ่งที่โบรกเกอร์ไม่ได้บอกคุณ อัปเดตล่าสุด 2023
• แนะนำ 5 โบรกเกอร์เทรด Forex ยอดนิยมที่ดีที่สุดในไทย อัปเดต 2023
• Top 5 โบรกเกอร์ Forex ฟรีโบนัสต้อนรับ-เงินฝากที่ดีที่สุด อัปเดตรอบครึ่งปีหลัง 2023
• แนะนำ 5 อันดับโบรกเกอร์ Forex เทรดทองยอดนิยม สเปรดต่ำ 2023

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ค่าสเปรดมีผลต่อโอกาสในการทำกำไรของเทรดเดอร์อย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว ค่าสเปรดแบบคงที่จะเหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นการดำเนินการซื้อขายอย่างรวดเร็ว และต้องการหลีกเลี่ยงการเกิดรีโควต ส่วนสเปรดแบบแปรผันจะเหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีบัญชีขนาดเล็ก และมีการซื้อขายไม่บ่อยมากนัก รวมไปถึงเทรดเดอร์ที่มีบัญชีเทรดขนาดใหญ่ที่ซื้อขายบ่อยครั้งในช่วงที่ตลาดผันผวนน้อย เพราะสเปรดจะแคบที่สุด การเลือกระหว่างโบรกเกอร์ Forex ที่มีสเปรดคงที่กับโบรกเกอร์ Forex ที่มีสเปรดแปรผันนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของเทรดเดอร์ โดยพิจารณาจากเทคนิคการเทรดและกลยุทธ์ของแต่ละบุคคลครับ

______________________________________________

หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตาม ThaiForexReview

ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนได้ที่ : News

อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ : Blogs

รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers