List of content
การเปิดสถานะ Buy กับ Sell คืออะไร?
หากกล่าวถึงการเทรด Forex แล้วนั้น นักเทรดควรรู้จักกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ - ขาย รวมทั้งควรรู้เกี่ยวกับประเภทของคำสั่งด้วย เพื่อให้นักเทรดสามารถเข้าใจถึงภาพรวมของการเทรด Forex ได้ ในวันนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับความหมายของการเปิดสถานะ Buy กับ Sell คืออะไร? รวมทั้งประเภทคำสั่งซื้อขายในการเทรด Forex มีอะไรบ้าง บทความนี้จะพาไปหาคำตอบกันครับ
การเปิดสถานะ Buy คืออะไร?
การเปิดสถานะ Buy คือ การเปิดออเดอร์เพื่อซื้อคู่เงินหนึ่งในช่วงตลาดขาขึ้น มีหลักการ คือ ซื้อในราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ก่อนจะทำการขายเมื่อคู่เงินนั้นมีราคาสูงขึ้น ทำให้นักเทรดได้กำไรส่วนต่างในตลาดขาขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่า “ซื้อถูกขายแพง” นั่นเองครับ
ยกตัวอย่างเช่น คุณเปิด Buy คู่สกุลเงินหนึ่งในราคา 32 บาท โดยคาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้ คู่สกุลเงินนี้จะปรับตัวสูงขึ้น และเมื่อมีการปรับราคาขึ้นไปเป็น 35 บาท นักเทรดจะทำการปิดสถานะเพื่อทำกำไร โดยได้กำไรส่วนต่าง 3 บาท แต่ในทางกลับกัน หากคู่สกุลเงินนี้มีการปรับตัวลดลงไปเป็น 31 บาท ก็จะทำให้นักเทรดขาดทุนจากการปิดสถานะไปครับ
ควรเปิดสถานะ Buy ในเวลาใด?
คุณควรเปิดสถานะ Buy เมื่อเห็นว่าราคาคู่สกุลเงินนั้นมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนักเทรดสามารถใช้ Indicator เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ทางเทคนิคต่าง ๆ โดยแต่ละ Indicator จะทำหน้าที่แตกต่างกันตามความต้องการของนักเทรดแต่ละคน อย่าง RSI ใช้ระบุ Momentum โดยเป็นการวัดค่าที่บอกปริมาณการซื้อ - ขายที่คำนวณจากความเร็วของการเคลื่อนของราคา
รวมทั้งการศึกษาจากปัจจัยอื่นที่มีผลต่อค่าเงิน อย่างอัตราการจ้างงาน (Non - Farm Payroll) และอัตราการเปลี่ยนแปลงของทองคำ เป็นต้น เพื่อใช้ในการพิจารณาการเปิดสถานะ
การเปิดสถานะ Sell คืออะไร?
การเปิดสถานะ Sell คือ การเปิดออเดอร์เพื่อเก็งกำไรจากคู่เงินหนึ่งในช่วงตลาดขาลง โดยมีหลักการ คือ ขาย (เปิดสถานะ Sell) ในราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน ก่อนจะทำการซื้อ (ปิดสถานะ Sell) ในราคาที่ต่ำกว่า โดยนักเทรดจะได้กำไรส่วนต่างจากตลาดขาลง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ขายแพงซื้อถูก” ครับ
ยกตัวอย่างเช่น คุณเปิดสถานะ Sell คู่สกุลเงินหนึ่งในราคา 37 บาท โดยหวังว่าในเวลาต่อมาคู่สกุลเงินนี้จะปรับตัวลดลง ดังนั้น เมื่อราคาคู่สกุลเงินนี้ลดลงจนแตะ 35 บาท นักเทรดก็จะปิดสถานะ ทำให้ได้กำไรจากส่วนต่างขาลงที่จำนวน 2 บาท ในทางตรงกันข้าม หากเวลาต่อมาคู่สกุลเงินกลับมีราคาพุ่งขึ้นเป็น 39 บาท จนต้องปิดสถานะในราคานี้ ก็จะทำให้นักเทรดขาดทุนไป 2 บาท เพราะต้องกลับมาซื้อคืนในราคาที่แพงขึ้นนั่นเองครับ
ควรเปิดสถานะ Sell ในเวลาใด?
คุณควรเปิดสถานะ Sell เมื่อเห็นว่าราคาของคู่สกุลเงินกำลังลดลง โดยการวิเคราะห์นั้นจะใช้ Indicator ร่วมกับการศึกษาปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินเช่นเดียวกับการเปิดสถานะ Buy
ประเภทคำสั่งในการเทรด Forex มีอะไรบ้าง?
เมื่อคุณรู้จัก Buy และ Sell ไปแล้วนั้น ประเภทคำสั่งซื้ออื่น ๆ ในการเทรด Forex ก็มีความสำคัญเช่นกัน
1. คำสั่งซื้อขายในตลาด (Market Order)
คำสั่งซื้อขายในตลาด (Market Order) คือ การส่งคำสั่งซื้อขายที่เป็นราคาตลาด ณ ปัจจุบัน โดยไม่ต้องรอการจับคู่ ทำให้นักเทรดได้คู่เงินหรือสินทรัพย์นั้น ๆ ทันที ถึงแม้ว่านักเทรดจะได้รับสินทรัพย์อย่างแน่นอน แต่คำสั่งซื้อขายประเภทนี้อาจทำให้นักเทรดได้ราคาที่ไม่ดีนัก
2. คำสั่งรอดำเนินการ (Pending Order)
คำสั่งรอดำเนินการ (Pending Order) คือ คำสั่งซื้อขายล่วงหน้าเพื่อให้นักเทรดได้คู่เงินหรือสินทรัพย์นั้น ๆ ในราคาที่พวกเขาพึงพอใจ คำสั่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อนักเทรดไม่มีเวลาว่างในการนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน โดย Pending Order มีอยู่ทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
1) Buy Stop
Buy Stop คือ การเปิดสถานะ Buy เมื่อนักเทรดคาดการณ์ว่า คู่สกุลเงินนั้นจะมีการปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น นักเทรดจึงเลือกใช้คำสั่ง Buy Stop ด้วยการตั้งจุดเข้าซื้อที่สูงกว่าราคาปัจจุบันในโซนแนวต้าน หากราคามีการปรับตัวสูงกว่าจุดเข้าซื้อก็แสดงว่า คู่เงินนั้นมีโอกาสที่จะพุ่งสูงต่อไป
2) Sell Stop
ในทางตรงกันข้าม Sell Stop ก็คือ การเปิดสถานะ Sell เมื่อนักเทรดคาดการณ์ว่า คู่สกุลเงินนั้นจะมีการปรับตัวลดลง ดังนั้น นักเทรดจึงเลือกใช้คำสั่ง Sell Stop ด้วยการตั้งจุดเข้าซื้อที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันในโซนแนวรับ หากราคามีการปรับตัวต่ำกว่าจุดเข้าซื้อก็แสดงว่า คู่เงินนั้นมีโอกาสที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง
3) Buy Limit
Buy Limit คือ การเปิดสถานะ Buy คู่สกุลเงินหนึ่งในราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน เพราะนักเทรดคาดการณ์ว่า ในอนาคตคู่เงินสกุลนั้นจะกลับมามีราคาที่สูงขึ้น ดังนั้น นักเทรดจึงต้องการเข้าซื้อคู่สกุลเงินนั้นในราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน เพื่อทำกำไรให้มากขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้น
4) Sell Limit
ในทางตรงกันข้าม Sell Limit คือ การเปิดสถานะ Sell คู่สกุลเงินหนึ่งในราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน เพราะนักเทรดคาดการณ์ว่า ในอนาคตคู่เงินสกุลนั้นจะมีราคาลดลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้น นักเทรดจึงต้องการเข้าซื้อคู่สกุลเงินนั้นในราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน เพื่อทำกำไรให้มากขึ้นในช่วงตลาดขาลง
สรุป
จากกที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า การเปิดคำสั่งซื้อขาย (Buy - Sell) จะช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าใจวิธีการทำงานได้อย่างเข้าใจ รวมทั้งเห็นภาพการทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลงได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ ทั้งนี้ การส่งคำสั่งซื้อขายก็มีหลายประเภท ดังนั้น อย่าลืมเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และบริหารความเสี่ยงด้วยการตั้งจุด Stop Loss และ Take Profit กันด้วยนะครับ
___________________________________
สุดท้ายนี้ การลงทุนทุกรูปแบบล้วนมีความเสี่ยง อยากให้คุณศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์นั้นให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน และหากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตาม ThaiForexReview
ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนได้ที่ : News
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ : Blogs
รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers