List of content

    ท่ามกลางวิกฤตธนาคาร ควรลงทุนอะไรดี ?


    ท่ามกลางวิกฤตธนาคาร ควรลงทุนอะไรดี ?

    การล่มสลายของธนาคาร 3 แห่ง ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ได้ส่งสัญญาณว่า อุตสาหกรรมการธนาคารของสหรัฐฯ ทั้งหมดกำลังเข้าสู่วิกฤต นักลงทุนบางคนกังวลว่า วิกฤตนี้อาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับตลาดหุ้นโดยรวมได้ แม้ว่าผลลัพธ์นั้นยังห่างไกลจากความเป็นจริงก็ตาม ทำให้นักลงทุนต้องหาวิธีรับมือความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบกับการลงทุนที่ได้วางแผนไว้ บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธีการปรับการลงทุนหรือกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าวกันครับ 

     

    ท่ามกลางวิกฤตธนาคาร ควรลงทุนอะไรดี ?

    วิกฤตการธนาคารทำให้เกิดภาวะถดถอยได้หรือไม่?

    นักลงทุนคาดการณ์ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี ​​2022 แต่จนถึงปัจจุบัน ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยังคงไม่ปรากฏให้เห็น แม้อัตราเงินเฟ้อจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดงานยังคงแข็งแกร่ง 

    สิ่งที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินและก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ก็เห็นได้จาก 3 ปีที่แล้ว การเกิดโควิด-19 ได้ทำลายตลาดหุ้นและผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้เข้าสู่ภาวะถดถอยที่สั้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    ดังนั้น การเกิดวิกฤตธนาคารจึงไม่ได้เป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ทางการเงินหลายคนเตือนว่า นโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นของเฟดเองจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

     

    กลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจท่ามกลางวิกฤตธนาคาร

    เนื่องจากปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดปรับตัวขึ้นลงมีความแตกต่างกันไปในแต่ละปี ดังนั้น กลยุทธ์ที่แนะนำสำหรับนักลงทุนควรจะเป็นกลยุทธ์ที่ไม่เหมือนเดิม 

    ท่ามกลางวิกฤตธนาคาร ควรลงทุนอะไรดี ?

    1. การลงทุนประเภท Hedge Fund 

    หุ้นปีที่แล้วร่วงลง 18% หากนักลงทุนมีการลงทุนแบบเดิมด้วยการซื้อหุ้นอย่างเดียว ไม่ว่าจะซื้อหุ้นแบบใดก็จะขาดทุน แต่หากนักลงทุนปรับกลยุทธ์โดยการซื้อหุ้นบางตัวและขายหุ้นบางตัว (Long-Short Strategy) จะสามารถสร้างกำไรได้ ตราบเท่าที่หุ้นที่เรานำมาจับคู่กันถูกต้อง และทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง แม้ว่าหุ้นทั้งโลกจะร่วงกว่า 18% ในปีที่ผ่านมา แต่ก็มีบางกองทุนที่สามารถสร้างกำไรให้กับนักลงทุนได้ 4-5% 

     

    ท่ามกลางวิกฤตธนาคาร ควรลงทุนอะไรดี ?

    2. หุ้นกลุ่มตราสารหนี้

    สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นกู้อย่างเดียว หากเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่มีคุณภาพ ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจเช่นกันครับ แต่หากนักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงต่างประเทศได้ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 5 ปี ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ หลังจากวิกฤตในปีนี้หายไปแล้ว ก็มีแนวโน้มว่า ในปีหน้าดอกเบี้ยอาจปรับตัวลดลง 

    ปัจจุบัน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 5 ปี จะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 3.7-3.9% ซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่น่าสนใจมาก ๆ แต่หากปีหน้าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีการปรับลดดอกเบี้ย 30-40 bsp นักลงทุนจะได้รับ Capital Gain เพิ่มขึ้นถึง  1% กว่า ๆ 

    ดังนั้น การลงทุนใน Bond Yield ขณะนี้จึงเริ่มฟื้นกลับมาอีกครั้ง โดยนักลงทุนเรียกสถานการณ์นี้ว่า “Bond are back” หลังจากการลงทุนในตราสารหนี้ซบเซาและหายไปถึง 15 ปี ช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำติดดิน

    นอกจากนี้ หากนักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงได้เพิ่มมากขึ้นอีก การลงทุนหุ้นกู้บางตัวที่ Credit Rating 3 ปี และ 5 ปี จะมีดอกเบี้ยอยู่ที่ 5% หากในปีหน้า ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีกจะส่งผลให้ได้รับกำไรเพิ่มขึ้นอีก 1-2% ขณะนี้กองทุนรวมในบ้านเราซึ่งเป็นกองทุนรวมต่างประเทศมีหลากหลายกองทุนให้เลือกลงทุนครับ

    ด้านผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เผยมุมมองถึงเรื่องนี้ว่า…

    “ในสินทรัพย์ทั้งหมด ยังคงให้น้ำหนักไปที่การลงทุนในตราสารหนี้โลก เนื่องจากการที่ Bond Yield ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมีโอกาสซื้อตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยมากขึ้น ในราคาที่ถูกลง”

    “นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า จังหวะในการเข้าซื้อตราสารหนี้ที่ดีที่สุด คือ จังหวะที่ตราสารหนี้เพิ่มขึ้นแตะ 4% เนื่องจากจะมีแรงซื้อจากสถาบันการเงินและกองทุนบำนาญจากทั่วโลกเข้ามาซื้อ Bond Yield เก็บไว้มากขึ้น และได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นเช่นกัน” 

     

    ท่ามกลางวิกฤตธนาคาร ควรลงทุนอะไรดี ?

    3. การลงทุนเกี่ยวกับค่าเงิน

    กลยุทธ์สุดท้ายที่แนะนำ คือ กลยุทธ์การลงทุนในสกุลเงินต่างประเทศ เนื่องจากหลังจากเกิดวิกฤตธนาคารส่งผลให้ USD แข็งค่าขึ้น นักลงทุนยังคงเชื่อว่า เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินหลบภัยในการลงทุน (Safe Haven) และนักลงทุนมักจะแห่ไปลงทุนในเงินดอลลาร์ เพราะเป็นสกุลเงินซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพที่ดีมากในสภาพแวดล้อมที่ไร้ความเสี่ยงครับ

     

    การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาพฤติกรรมตลาดอยู่เสมอ เพื่อเตรียมรับความพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การติดตามข่าวสารจะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำขึ้น ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านในช่วงนี้นะครับ

    Source : Forbes

    ______________________________________________

    หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตาม ThaiForexReview

    ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนได้ที่ : News

    อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ : Blogs

    รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers

     

    investing

    แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ

    ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

    Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
    ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

    การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

    © Copyright Thaiforexreview 2023. All rights reserved