สรุป 5 ข่าวสำคัญ ทำนักลงทุนช้อนซื้อทองคำ ราคาพุ่งขึ้นสู่ 1858 ดอลลาร์สหรัฐ (12 พ.ค 65)

ทองคำวันนี้ได้ดีดตัวขึ้นมาจากเมื่อวาน ราคาได้ขึ้นมาแตะที่ระดับ $1,858 เนื่องจากข่าวการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในภาวะรุนแรง บวกกับข่าวที่ยูเครนปิดเส้นทางหลักในการขนส่งก๊าซไปยังยุโรป ทำให้สัญญาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบไปยังสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ รวมถึง Bitcoin ด้วย และยังมีอีกหลายข่าวที่เป็นปัจจัยสำคัญเข้ามาช่วยหนุนราคาทองคำด้วยเช่นกัน

ผมเลยสรุป 5 ข่าวสำคัญที่ทำให้นักลงทุนช้อนซื้อทองคำ มาให้อ่านกันดังนี้ครับ

1) ยูเครนได้ปิดเส้นทางหลักในการลำเลียงขนส่งก๊าซไปยังยุโรป โดยอ้างว่าเป็นเพราะกองกำลังทหารของรัสเซียเข้ามาแทรกแซง ซึ่งส่งผลให้การส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปมีปริมาณลดลงราว 1 ใน 4 และถือเป็นครั้งแรกที่การลำเลียงก๊าซหยุดชะงักลงนับตั้งแต่รัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน

2) สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 5.95 ดอลลาร์ หรือ +6% ปิดที่ 105.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข่าวรายงานว่า การขนส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปโดยผ่านทางยูเครนนั้น มีปริมาณลดลง เนื่องจากยูเครนปิดเส้นทางหลักในการขนส่งน้ำมัน และข่าวกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในระดับ 8.1% ครับ

3) หลังการเปิดเผยตัวเลข CPI ที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง แต่นักลงทุนก็ยังมองว่าตัวเลขดังกล่าวไม่น่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) หันไปใช้นโยบายการเงินที่รุนแรงกว่านี้ ทำให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.08% แตะที่ 103.846

4) Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 28,000 ดอลลาร์ ราคาได้หลุด 1,000,000 บาทแล้วในวันนี้ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด เป็นระดับที่ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 40 ปี โดยข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า นักลงทุนเกือบ 40% ที่ถือครอง Bitcoin ได้ประสบภาวะขาดทุน ขณะที่ Bitcoin มีมูลค่าดิ่งลงเกือบ 55% จากที่เคยพุ่งไปแตะ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งเคยเป็นระดับสูงสุดที่สุดในประวัติการณ์ครับ 

5) นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธาน FED เซนต์หลุยส์ ได้เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนที่ 8.3% ถือว่าอยู่ในขั้นร้อนแรง แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ FED เปลี่ยนมาใช้การขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เพราะแผนนโยบายในปัจจุบันของ FED แบบเดิมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% ถือว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ดีที่สุดแล้วสำหรับตอนนี้

อย่างไรก็ตาม เราควรติดตามสถานการณ์ตลาดโลกอย่างใกล้ชิด รวมถึงเหตุการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังเดินหน้าต่อไป เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดแรงผันผวนของราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง เราต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน เจอกันใหม่โอกาสหน้า ผมจะนำข่าวมาสรุปให้อ่านแบบนี้เรื่อย ๆ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ

Source : Bloomberg, CNBC, SPDR, Investing