ทองคำผันผวนรุนแรงเกิดจากอะไร?

ด้วยความจริงที่ว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพถึง 90% นั้น เป็นเหตุผลพื้นฐานที่สุดสำหรับการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง และการดิ่งลงของทองคำเพียงพอที่จะโน้มน้าวตลาดว่า สิ่งนี้คือกุญแจสำคัญในการกลับเข้าสู่ชีวิตปกติ Anthony Fauci ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจมีผลอย่างมากต่อการพัฒนาวัคซีน COVID-19 แล้ว 90% หมายถึงอะไร? หากเป็นจริงนั่นหมายความว่าผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 9 ใน 10 รายอาจได้รับการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามข้อมูลในอนาคตของ Pfizer เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนควรเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากกว่า เพราะว่า 90% เป็นเพียงสิ่งที่ Pfizer พบในผลการทดลองครั้งแรกในวันที่ 8 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่ทำการทดลองและไม่พิจารณาการทดสอบสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการสาหัส แต่โดยทั่วไปแล้วในการจะได้รับการอนุมัติวัคซีนนั้น จำเป็นต้องมีการทดสอบกับประชากรในวงกว้าง และนอกจากนี้ผลข้างเคียงที่หายากหลายอย่างมักเกิดขึ้นเป็นเวลาสองถึงสามเดือนหลังการฉีดวัคซีน แม้ว่า Pfizer จะผ่านการรับรองเพื่อให้วัคซีนได้รับการอนุมัติ แต่ปัญหาหลายอย่างยังคงต้องได้รับการแก้ไขในแง่ของเทคโนโลยีการจัดเก็บและการผลิต ตัวอย่างเช่น วัคซีนสามารถอยู่รอดได้เฉพาะในอุณหภูมิที่ต่ำมาก ทำให้มีข้อจำกัดในการขนส่งที่มากเกินไป ดังนั้นข้อมูลของ Pfizer ซึ่งมีประสิทธิภาพถึง 90% นั้นจึงเป็นสาเหตุของการเฉลิมฉลอง แต่การฉีดวัคซีนยังคงเป็นหนทางที่ยาวไกล และความเชื่อมั่นของตลาดในขณะนี้มีความพัวพันอยู่กับสองเรื่องด้วยกัน - อารมณ์และเหตุผลทำให้ความผันผวนในตลาดทองคำทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเร็วเกินกว่าจะพัฒนาวัคซีนให้เท่าทันกันได้!

สหรัฐอเมริกามีรายงานการติดเชื้อรายใหม่จำนวนมากที่สุดในโลกในแต่ละวัน ณ เดือนนี้ยอดรวมสูงถึงเกือบ 10 ล้านคนและจะเพิ่มขึ้นอีกหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯเนื่องจากทั้งการเฉลิมฉลองและการประท้วงที่จะเกิดขึ้น ยกเว้นสหรัฐอเมริกา การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในยุโรปไม่ใช่แง่ดีในทางใดทางหนึ่ง แต่ยุโรปได้เริ่มกำหนดมาตรการปิดล้อมทางเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด รัฐบาลกำลังถูกบีบบังคับจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น แม้จะมีข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนเพื่อจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชนในระยะสั้น และการผลิตวัคซีนอาจได้รับการชั่งน้ำหนักในอนาคตเมื่อมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ธนาคารกลางจะไม่เปลี่ยนแผนในการปรับปรุงสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวอีกครั้ง ส่งผลให้ทองคำซึ่งติดหล่มอยู่ในความผันผวนมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับการสนับสนุนในทางตรงกันข้าม

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใกล้เข้ามาหลังการเลือกตั้งหรือไม่?

แม้ว่า Trump จะปฏิเสธที่จะยอมรับชัยชนะของ Biden และใช้ความถูกต้องของการลงคะแนนเสียงยื่นต่อศาล แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะย้อนกลับผลลัพธ์ที่ Biden จะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ ข่าวดังกล่าวไม่เพียง แต่รายงานโดยสื่อหลัก ๆ ในสหรัฐฯเท่านั้น แต่ยังมีการประกาศอย่างเป็นทางการโดย Fox News พันธมิตรสื่อของ Trump บนเว็บไซต์ ชัยชนะของ Biden อาจส่งผลดีต่อแนวโน้มของทองคำ ในอีกด้านหนึ่งพรรคเดโมแครตได้ผลักดันให้มีมาตรการการช่วยเหลือที่ใหญ่ขึ้น เงินดอลลาร์อาจปรับตัวลดลงและทองคำอาจมีการปรับตัวขึ้นเมื่อมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น ในทางกลับกันภาษีนิติบุคคลที่ได้รับการสนับสนุนมายาวนานของ Biden สามารถเพิ่มความกระวนกระวายใจใน Wall Street และทำให้ทองเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม แต่กว่าจะถึงเวลานั้นตลาดทองคำจะยังคงผันผวนต่อไป

สิ่งใดจะเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนแนวโน้มของทองคำในอนาคต?

1.ในระยะสั้นผลการดำเนินงานของทองคำขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตวัคซีนยังคงรายงานข้อมูลเชิงบวกต่อไปอีกหรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตลาดทองคำจะมีความผันผวนเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งในระยะยาวนั้นทองคำจะถูกจำกัดโดย ความเพียงพอต่อความต้องการ ปริมาณ การจัดเก็บ และการขนส่งของวัคซีน

2. Biden มีความเป็นไปได้ที่จะใช้นโยบายทางการเมืองและเศรษฐกิจต่างประเทศที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพหลังจากเข้ารับตำแหน่ง และนี่อาจไม่ส่งผลดีต่อแนวโน้มทองคำเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งทางการค้าเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของการเพิ่มขึ้นของทองคำ

3. หากการพัฒนาวัคซีนเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ธนาคารกลางจะชะลอมาตรการการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ดังนั้นค่าเงินดอลลาร์อาจสูงขึ้นและความเสี่ยงด้านขาลงของทองคำจะเพิ่มขึ้น