10 สิ่งที่น่าสนใจในตลาดฟอเร็กซ์

เมื่อพูดถึงตลาด Forex หลาย ๆ คนคงเคยเกิดความสงสัยและมีคำถามเกี่ยวกับตลาด Forex กันมาบ้างใช่ไหมครับ ซึ่งคำถามที่ผมมักพบเจอบ่อย ๆ ของเหล่านักลงทุนที่มีต่อตลาดแห่งนี้ คงเป็น

“ตลาด Forex มีขนาดใหญ่ขนาดไหน?

เราสามารถทำเงินจากตลาด Forex ได้จริงหรือไม่?

ต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่จึงจะสามารถลงทุนบนตลาด Forex ได้? 

ข้อได้เปรียบของการเทรด Forex คืออะไร? ”

ในวันนี้ผมจะมาตอบคำถามที่ถูกสงสัยกัน โดยบทความนี้ได้รวบรวม 10 สิ่งที่น่าสนใจบนตลาด Forex มาให้เหล่านักลงทุนทั้งมือเก่าและมือใหม่ได้ทำความเข้าใจกันครับ

1. ขนาดของตลาด

ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าการซื้อขายที่สูงถึง 5.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละวัน เนื่องจากเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง จึงทำให้มีผู้ซื้อ-ขายเข้ามาเทรดได้ตลอดเวลา

2. ตลาด 24 ชั่วโมง

ความพิเศษของตลาด Forex คือ เป็นตลาดที่ไร้พรมแดน เพราะตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ในทุก ๆ 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้สร้างความสะดวกแก่นักลงทุนที่อยากเทรดไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาใดก็ตาม รวมทั้งยังสามารถเลือกเข้าตลาดเวลาไหนก็ได้ ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงเวลาระหว่างเวลาเปิดของตลาดในประเทศนิวซีแลนด์ (วันจันทร์) จนถึงเวลาปิดของตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา (เย็นวันศุกร์) จากนั้นจะตามเขตเวลา GMT+8 สิงคโปร์, มาเลเซีย และเซี่ยงไฮ้

ดังนั้นจะถือได้ว่าตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่เวลาตี 5 ของวันจันทร์จนถึงเวลาตี 5 ของคืนวันศุกร์ในทุก ๆ สัปดาห์

3. ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำ

ตลาด Forex นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายในตลาด เพราะเป็นตลาดที่ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลางใด ๆ (ตลาดหลักทรัพย์) ซึ่งการเทรด Forex นั้นจ่ายค่าธรรมเนียมในจำนวนน้อย นักเทรดจะรู้จักกันดีในคำว่าค่าสเปรด (Spread) โดยค่าธรรมเนียมใน Forex จะจ่ายในจำนวนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดอื่น ๆ ที่โบรกเกอร์มักจะเก็บค่านายหน้าของรายการซื้อขายในเปอร์เซ็นต์ที่สูง ตรงกันข้ามกับค่าสเปรดเริ่มต้นที่จ่ายเพียง 0.01 pips ของมูลค่าการซื้อขาย

4. บัญชีทดลอง อุปกรณ์ และโปรแกรมซอฟต์แวร์ของ Forex ฟรี 

โบรกเกอร์ Forex ออนไลน์ส่วนใหญ่มักให้บัญชีทดลองแก่นักเทรดมือใหม่ เพื่อใช้ฝึกฝนการซื้อขาย ซึ่งบัญชีทดลองสามารถตีเป็นไปได้ 2 กรณี คือ 1. นักเทรดสามารถซื้อขายด้วยเงินปลอม และ 2. คือราคาที่แสดงในบัญชีนั้นเป็นข้อมูลจริง ๆ สิ่งนี้สามารถทำให้นักลงทุนได้ฝึกฝนทักษะของเขาก่อนทำการเปิดบัญชีจริง ซึ่งการเปิดบัญชีจริงจะขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่นักเทรดได้สมัครไว้

5. การทำกำไรได้ทั้งสองทาง

นักเทรดที่ทำการเทรดในตลาด Forex สามารถทำกำไรได้ 2 ทาง คือ จากกำไรขาขึ้นและกำไรขาลง เนื่องจากตลาด Forex นี้เป็นการเกี่ยวข้องระหว่างสุกลหนึ่งกับอีกสกุลเงินหนึ่ง ที่มีการซื้อขายในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น EUR/USD, USD/JPY, AUD/USD และ NZD/USD

สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตลาด Forex ที่ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ในทุก ๆ เวลา ฉะนั้นแล้วโอกาสในการเกร็งกำไรจึงมีมากกว่า เพราะทุก ๆ วินาทีในตลาด Forex มีส่วนสำคัญที่จะทำให้นักลงทุนมีช่องทางในการได้กำไร

6. จำนวนการกู้ยืมสูง

โบรกเกอร์ให้ระดับจำนวนการกู้ยืมหรือ Leverage ที่ยอดเยี่ยมในตลาด Forex โดย Leverage นี้สามารถเพิ่มมูลค่าการเทรดให้กับนักลงทุนได้หลายเท่า ซึ่งขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์นั้น ๆ กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น หากมี Leverage อยู่ที่ 500:1 นั้นหมายความว่าคุณลงทุนจำนวน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ คุณก็จะสามารถซื้อขายได้ด้วยมูลค่าถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มศักยถาพในการลงทุนให้แก่นักลงทุน 

เห็นได้ว่าการมี Leverage จะช่วยให้นักเทรดสามารถเทรดได้แม้มีจำนวนทุนที่จำกัด อย่างไรก็ตามการมี Leverage สูงยิ่งมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากนักเทรดได้กำไรก็จะได้มาก แต่ถ้าขาดทุนก็จะสูญเสียจนอาจทำให้พอร์ตแตกได้ 

7. การเข้าถึงออนไลน์

จากนวัตกรรมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต เป็นเหตุให้ทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงการซื้อขายในตลาด Forex ได้ โดยใช้เพียง 2 เครื่องมือ ได้แก่ 1. เครื่องคอมพิวเตอร์แล็บท็อปหรือสมาร์ทโฟน และ 2. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต การเข้าถึงออนไลน์นี้จึงทำให้การซื้อขายในตลาด Forex กลายเป็นเรื่องที่สะดวก, รวดเร็ว และมีศักยภาพที่มากขึ้น

8. มูลค่าของบัญชีต่ำ

นักเทรดสามารถเปิดบัญชีจริงได้ด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำ ยกตัวอย่างเช่น ขั้นต่ำ $10, $15, $30, $100 หรือ $200 เป็นต้น ซึ่งการเปิดบัญชีขั้นต่ำนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโบรกเกอร์แต่ละคน ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีให้แก่นักเทรดมือใหม่ที่ต้องการลงทุนในจำนวนเงินที่จำกัด แต่สามารถมีโอกาสได้กำไรทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง โดยนักเทรดที่มีทุนในการเปิดบัญชีที่ต่ำกว่าตลาดอื่น ๆ ก็สามารถเข้ามาเรียนรู้ตลาดได้จริง ๆ

9. กฎข้อบังคับของรัฐบาลที่ถูกจำกัด

ตลาด Forex ถูกพิจารณาการซื้อขายหลักทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ (over-the-counter market) กล่าวคือ ไม่มีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน เนื่องจากตลาดมีการซื้อขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ทำให้ไม่มีการถ่วงดุลอำนาจจากรัฐบาลบนตลาดแห่งนี้

10. กฎข้อบังคับของรัฐบาลที่ถูกจำกัด

ในโลกของการลงทุนจะเห็นได้ว่าองค์กรทางการเงินและนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดตราสารทุน มักมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่านักลงทุนรายย่อย ๆ แต่สำหรับตลาด Forex นั้น องค์กรทางการเงินเหล่านั้นมีข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียว คือ มีข้อมูลสารสนเทศที่มากกว่า โดยตลาด Forex ถือเป็นตลาดที่มีความเท่าเทียมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและการเคลื่อนไหวของตลาดได้เท่า ๆ กัน เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยจะได้รับเครื่องมือข่าวสารทั้งหมดเหมือนกันกับที่นักลงทุนในสถาบันการเงินได้รับ เพื่อมุ่งสู่การลงทุนอย่างเสรีและมีความเป็นธรรมให้แก่นักลงทุนทุกกลุ่มที่เข้ามาลงทุน

สรุป 

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า 10 สิ่งที่น่าสนใจบนตลาด Forex นั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการสร้างประสบการณ์การลงทุนจากการมีต้นทุนที่จำกัด เพราะตลาด Forex ถือว่ามีความสะดวกในการเทรดที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเทรดได้ เพียงแค่คุณมีสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือ

อย่างไรก็ตามหากคุณไม่ศึกษาตลาดให้มีความเข้าใจนั้น ก็อาจทำให้คุณลงทุนอยู่บนความความเสี่ยงได้ ฉะนั้นแล้วควรศึกษาการเทรดทุกครั้งก่อนจะทำการลงทุนครับ

______________________________________________

หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตาม ThaiForexReview

ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนได้ที่ : News

อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ : Blogs

รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers