List of content

    เปรียบเทียบกลยุทธ์ เริ่มเทรด Forex อย่างไร ให้ได้ Tesla Model 3


    เปรียบเทียบกลยุทธ์ เริ่มเทรด Forex อย่างไร ให้ได้ Tesla Model 3

    หากเราต้องการเป็นเทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือ “เป้าหมาย” ซึ่งเป้าหมายของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน เทรดเดอร์บางคนอาจจะอยากได้บ้านสักหลัง เทรดเดอร์บางคนอาจจะอยากได้รถสักคัน หรือเทรดเดอร์บางคนอาจจะอยากมีเงินเก็บสักก้อนจากการเทรด Forex

    สิ่งต่อมาที่จะพาเราก้าวไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ คือ “แผนการเทรด” เพราะหากการเข้าเทรดของเราไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน หรือไม่มีแผนการเทรดที่ดี โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ถูกต้องไหมครับ

    และนั่นเป็นสาเหตุว่า ทำไมผมถึงมาเขียนบทความ “เปรียบเทียบกลยุทธ์ เริ่มเทรด Forex อย่างไร ให้ได้ Tesla Model 3” และแน่นอน เป้าหมายของคุณอาจไม่ใช่ Tesla เหมือนกับผม แต่คุณสามารถนำการวางแผนต่อไปนี้ ไปปรับใช้กับเป้าหมายของตัวเองได้ครับ

    Tesla model 3

    เทรดเดอร์ทุกคนที่เข้ามาในตลาด Forex ย่อมต้องการให้เงินในพอร์ตของตนเองงอกเงย แต่การที่เงินของเราจะโตหรือมีกำไรนั้น แทบเป็นไม่ได้เลยที่จะเกิดจากการเทรดเพียงครั้งเดียว แล้วทำกำไรได้เยอะ ๆ โดยที่ระหว่างทางไม่ขาดทุน

    เริ่มลงทุน Forex เท่าไหร่ดี

    ผมจึงขอเริ่มจากจำนวนเงินในพอร์ตที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณเห็นภาพได้ว่า “เรามีเงินทุนเท่านี้ จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย”

    เป้าหมายของผม คือ รถ Tesla Model 3 ราคา 1,750,000 (ประมาณ $50,000) โดยผมจะแบ่งเงินลงทุน ออกเป็น 4 ระดับ คือ

    เงินลงทุน ระดับที่ 1

    ผมใช้เงินลงทุนจำนวน 17,500 บาท / 35 บาท (ประมาณ $500)

    ซึ่ง 17,500 บาท คิดเป็น 1% ของราคา 1,750,000 เพราะฉะนั้น ผมต้องเทรดให้ได้กำไรถึง 9,900% หรือคิดเป็น 99 เท่า ของจำนวนเงิน 17,500 บาท

    เงินลงทุน ระดับที่ 2

    ผมใช้เงินลงทุนจำนวน 35,000 บาท / 35 บาท  (ประมาณ $1,000)

    ซึ่ง 35,000 คิดเป็น 2% ของจำนวน 1,750,000 เพราะฉะนั้น ผมต้องเทรดให้ได้กำไรถึง 4,900% หรือคิดเป็น 49 เท่า ของจำนวนเงิน 35,000 บาท

    เงินลงทุน ระดับที่ 3

    ผมใช้เงินลงทุนจำนวน 175,000 บาท / 35 บาท (ประมาณ $5,000)

    ซึ่ง 175,000 คิดเป็น 10% ของจำนวน 1,750,000 เพราะฉะนั้น ผมต้องเทรดให้ได้กำไรถึง 900% หรือคิดเป็น 9 เท่า ของจำนวนเงิน 175,000 บาท

    เงินลงทุน ระดับที่ 4

    และสุดท้ายผมใช้เงินลงทุน 350,000 บาท / 35 บาท (ประมาณ $10,000)

    ซึ่ง 350,000 คิดเป็น 20% ของจำนวน 1,750,000 เพราะฉะนั้น ผมต้องเทรดให้ได้กำไรถึง 400% หรือคิดเป็น 4 เท่า ของจำนวนเงิน 350,000 บาทครับ

    เป้าหมายในการเทรด Forex

    ตอนนี้เราเห็นเป้าหมายคร่าว ๆ แล้วว่าจะต้องเทรดให้ได้กำไรเพิ่มขึ้นกี่ % ของเงินลงทุน พอมองเผิน ๆ แล้วเทรดเดอร์บางคนอาจจะรู้สึกว่า “ทำไมมันดูทำยากจัง” ใช่ไหมครับ แต่อย่าเพิ่งกังวัลไปครับ ผมจะพามาดูขั้นตอนที่ละเอียด ว่าเราต้องเริ่มวางแผนอย่างไรและใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะไปถึงเป็าหมายได้ มาเริ่มกันเลยครับ

    เงินลงทุน Forex น้อย ทำกำไรได้อย่างไร

    ในบทความนี้ผมจะยกตัวอยาก ในเลือกซื้อขายสกุลเงิน XAUUSD โดยใช้เงินลงทุนระดับที่ 2 = 17,500 บาท หรือคิดเป็น 1,000 ดอลลาร์ เพราะจะช่วยให้เทรดเดอร์หลายคนเห็นภาพได้ว่า เงินลงทุนประมาณนี้ก็สามารถพาเราไปถึงเป้าหมายได้

    โดยผมต้องทำกำไรทั้งหมด $49,000 ถึงจะมีเงินเพียงพอต่อการซื้อรถ Tesla Model 3 ที่ราคา 1,750,000 บาท หรือ 50,000 ดอลลาร์  ($1,000+$49,000=$50,000)

    ซึ่งในการเทรด Forex นั้น ถึงเงินทุนจะไม่เยอะมาก แต่คุณสามารถทำกำไรได้จากการใช้ Leverage เข้ามาช่วยเพิ่มอำนาจการซื้อขาย โดยจากเงินลงทุน $1,000 ผมสามารถใช้ Leverage ที่ระดับ 1:20, 1:50 หรือ 1:100 ก็ถือว่าเพียงพอ

    เพิ่มเติมในส่วนการใช้ Leverage คือการใช้ “หลักประกัน (Margin) : มูลค่าสินทรัพย์” ก่อนการเปิดออเดอร์ ถ้าผมใช้ Leverage 1:100 ความหมายก็คือ ผมต้องวาง Margin ไว้ 1 หน่วย เพื่อที่จะถือครองสินทรัพย์สถานะ 100 หน่วยได้

    เช่น ถ้าเราต้องการ Buy คู่เงิน XAUUSD เป็นจำนวน 1 Lot จากการใช้ Leverage 1:100 จะหมายถึงเราวางเงิน Margin ไว้ $1 ต่อการถือครองสินทรัพย์ $100 (หรือ ทุก ๆ $100 เราจะต้องวางเงินหลักประกันไว้ $1) และหากคุณยังไม่เข้าใจเรื่องการใช้ Leverage และการวางหลักประกัน (Margin) คุณสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ Leverage และบทความ Margin นี้ครับ

    Take Profit and Stop loss

    ตัวอย่างการคำนวณแผนการเทรด Forex

    ตัวอย่างที่ 1 การคำนวณระยะเวลาจาก Win Rate 100%

    การแสดงตัวอย่างการคำนวณก่อนที่เราจะไปซื้อขายในตลาดจริง โดยบทความนี้ผมทำการซื้อขาย XAUUSD ในสไตล์การเทรดแบบ Run Trend ระยะยาวนะครับ โดยกำหนด Take Profit , Stop Loss ไว้ประมาณ 100 Pip (1,000 Point) ในทุก ๆ ออเดอร์ แต่ละออเดอร์ผมขอกำหนด Risk Reward Ratio (RRR) ไว้ที่ 1:1 ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณ จะช่วยคุณสามารถเห็นภาพได้ง่ายขึ้น และกำหนดจำนวนการเทรดไว้ที่ 10 ออเดอร์/สัปดาห์

    หากผมได้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์จากปัจจัยต่าง ๆ จึงเปิดออเดอร์โดยใช้ขนาด 0.10 Lot พอหลังจากซื้อขายไปแล้วนั้น กราฟราคา XAUUSD วิ่งไปชน Take Profit ที่ผมกำหนดไว้ เท่ากับว่าจะได้กำไร $100 (0.10 Lot x 1,000 Point = $100) และในทางตรงกันข้าม เมื่อกราฟราคาวิ่งไปทิศทางตรงกันข้ามกับที่กำหนดไว้ จนออเดอร์เกี่ยว Stop Loss เท่ากับว่าผมจะขาดทุน $100 เช่นกัน

    เมื่อตอนนี้เรารู้กำไรขาดทุน / 1 ออเดอร์ แล้วว่าเท่ากับ $100 นั้นแปลว่า เงื่อนไขที่จะเทรด 10 ไม้/สัปดาห์ เท่ากับว่าผมต้องเทรดให้ชนะ 500 ไม้ ซึ่งหากคิดเป็นระยะเวลาจะต้องใช้เวลาทั้งหมด 50 สัปดาห์ (ประมาณ 11 เดือนครึ่ง) ถึงจะสามารถทำกำไรให้งอกเงยไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ $50,000 ได้ (($100 x 500 Order) x 35 บาท = 1,750,000 บาท)

    แต่! แน่นอนว่าการเทรดให้ถูกทางทั้ง 10 ออเดอร์/สัปดาห์ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยครับ ดังนั้นผมจะทำการเปรียบเทียบให้คุณเห็นถึงความเป็นไปได้มากขึ้น ว่าถ้าผมเทรดโดยมีอัตราชนะ : แพ้ (Win/Loss Ratio) จะต้องใช้เวลามากขึ้นอีกเท่าไหร่

    ตัวอย่างที่ 2 การคำนวณโดยมี Win/Loss Ratio ที่แตกต่างกัน

    ตัวอย่างนี้เป็นการคำนวณโดยมี Win/Loss Ratio ที่แตกต่างกัน โดยผมจะแบ่งอัตราการ Win/Loss ออกเป็น 3 รูปแบบ คือ

    - Win/Loss = 7 : 3

    - Win/Loss = 5 : 5

    - Win/Loss = 4 : 6

    รูปแบบที่ 1 อัตราการแพ้ชนะ Win : Loss = 7 : 3

    หากว่าผมเทรด 10 ไม้/ สัปดาห์ โดยสามารถชนะตลาดได้ 7 ไม้ และแพ้ 3 ไม้ จะสามารถคำนวณระยะเวลาเพื่อไปถึงเป้าหมายได้ดังนี้

    $50,000 / ((7 - 3 = 4) x $100) = 125 สัปดาห์ (ประมาณ 2 ปี 5 เดือน)

    _________________________________

    รูปแบบที่ 2 อัตราการแพ้ชนะ Win : Loss = 5 : 5

    หากว่าผมเทรด 10 ไม้ / สัปดาห์ โดยสามารถชนะตลาดได้ 5 ไม้ และแพ้ 5 ไม้ จะสามารถคำนวณระยะเวลาเพื่อไปถึงเป้าหมายได้ดังนี้

    $50,000 / ((5 - 5 = 0)  x $100) = 0 สัปดาห์ (เท่าทุน แต่อย่าลืมว่า การเทรดแต่ละครั้ง ผมต้องเสีย Spread ในการซื้อขาย)

    _________________________________

    รูปแบบที่ 3 อัตราการแพ้ชนะ Win : Loss = 4 : 6

    หากว่าผมเทรด 10 ออเดอร์ / สัปดาห์ โดยสามารถชนะตลาดได้ 4 ไม้ และแพ้ 6 ไม้ จะสามารถคำนวณระยะเวลาเพื่อไปถึงเป้าหมายได้ดังนี้ $50,000 / ((4 - 6 = -2)  x $100) = 0 สัปดาห์ (พอร์ตแตก)

    Risk Reward Ratio

    ตัวอย่างที่ 3 การคำนวณโดยกำหนด Risk Reward Ratio ที่แตกต่างกัน

    ในตัวอย่างนี้ ผมจะนำหลักการกำหนด Risk Reward Ratio ที่เทรดเดอร์มืออาชีพนิยมใช้กัน
    คือ แต่ละออเดอร์จะกำหนด RRR ไว้ที่ 1 : 2 โดยกำหนด Stop Loss ไว้ที่ 500 Point, กำหนด Take Profit ไว้ที่ 1,000 Point เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณและสามารถเห็นภาพได้ง่ายขึ้นจะใช้เงื่อนไขการเทรดเหมือนเดิม คือ จำนวนการเทรด 10 ไม้/สัปดาห์ และเปิดออเดอร์โดยใช้ขนาด 0.10 Lot ครับ

    เมื่อกราฟราคา XAUUSD วิ่งไปตามที่ผมกำหนด Take Profit ไว้ เท่ากับว่า ผมจะได้กำไร $100 (0.10 Lot x 1,000 Point = $100) และในทางตรงกันข้าม เมื่อกราฟราคา XAUUSD วิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่กำหนดไว้ ทำให้ Order เกี่ยว Stop Less เท่ากับว่า ผมจะขาดทุน $50 (0.10 Lot x 500 Point = $50)

    เมื่อตอนนี้ เรารู้กำไรขาดทุนต่อ 1 ออเดอร์แล้วว่า ถ้าชนะตลาดจะได้กำไร $100 และหากแพ้ตลาดจะเสีย $50 ต่อมาผมจะทำการเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า ถ้าเทรดโดยใช้ RRR = 1 : 2 และมี Win/Loss Ratio เข้ามาเกี่ยวข้องจะช่วยให้เราใช้เวลาเร็วกว่าเดิมแค่ไหน โดยจะกำหนด Win/Loss Ratio ให้เหมือนกับตัวอย่างที่ผ่านมาครับ คือ

    - Win/Loss = 7 : 3

    - Win/Loss = 5 : 5

    - Win/Loss = 4 : 6

    รูปแบบ 1 อัตราการแพ้ชนะ Win : Loss = 7 : 3

    จากตัวอย่างนี้ ผมสามารถชนะตลาดได้ 7 ไม้ แพ้ 3 ไม้ โดยผมตั้ง RRR = 1 : 2 และเทรด 10 ไม้/สัปดาห์เหมือนเดิม จะสามารถคำนวณได้ดังนี้

    Win 7 Loss 6
    70 x 2% -3 x 1%
    14% -3%

    ผลการเทรด 10 ครั้ง / สัปดาห์ = 14 + (-3) = 11 ดังนั้น ผมจะมี Reward = 11

    และคำนวณเพื่อหาระยะเวลา ที่จะไปถึงเป้าหมายได้ดังนี้ $50,000 / (11 x $100 = กำไร $1,100 ต่อสัปดาห์)

    = 45 สัปดาห์ หรือคิดเป็น 10 เดือนครึ่ง โดยประมาณ

    _________________________________

    รูปแบบ 2 อัตราการแพ้ชนะ Win : Loss = 5 : 5

    ตัวอย่างที่ 2 นี้ ผมสามารถชนะตลาดได้ 5 ไม้ แพ้ 5 ไม้ ซึ่งเป็นอัตราที่เท่ากัน แต่ผมตั้ง RRR = 1 : 2 และมีเงื่อนไขว่า ต้องเทรด 10 ไม้/สัปดาห์ จะสามารถคำนวณได้ดังนี้

    Win 5 Win 5
    5 x 2% -5 x 1%
    10% -5%

    ผลการเทรด 10 ครั้ง / สัปดาห์ = 10 + (-5) = 5 ดังนั้น ผมจะมี Reward = 5

    และคำนวณเพื่อหาระยะเวลา ที่จะไปถึงเป้าหมายได้ดังนี้ $50,000 / (5 x $100 = $500 )

    = 100 สัปดาห์ หรือคิดเป็น 1 ปี 11 เดือน โดยประมาณ

    **สังเกตได้ว่า Win/Loss Ratio = 5 : 5 ซึ่งเป็นอัตราการแพ้ชนะที่เท่ากัน แต่การที่ผมกำหนด RRR = 1:2 จะเป็นตัวเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด ช่วยให้พอร์ตยังเติบโตได้ในระยะยาวครับ**

    _________________________________

    รูปแบบ 3 อัตราการแพ้ชนะ Win : Loss = 4 : 6

    และตัวอย่างสุดท้าย ผมสามารถชนะตลาดได้เพียง 4 ไม้ และแพ้ตลาดไปถึง 6 ไม้ โดยผมตั้ง RRR = 1 : 2 มีเงื่อนไขว่า ต้องเทรด 10 ไม้/สัปดาห์เหมือนเดิม จะสามารถคำนวณได้ดังนี้

    Win 4 Loss 6
    4 x 2% -6 x 1%
    8% -6%

    ผลการเทรด 10 ครั้ง / สัปดาห์ = 8 + (-6) = 2 ดังนั้น ผมจะมี Reward = 2

    และคำนวณเพื่อหาระยะเวลา ที่จะไปถึงเป้าหมายได้ดังนี้ $50,000 / (2 x $100 = $200)

     

    = 250 สัปดาห์ หรือคิดเป็น 4 ปี 9 เดือนครึ่ง โดยประมาณ

     

    ** จากตัวอย่างนี้ สังเกตได้ว่า ต่อให้ผมมี Win/Loss Ratio ที่ 4 : 6 ซึ่งมีจำนวนการแพ้ตลาดมากกว่าชนะอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมได้กำหนด RRR = 1 : 2 ทำให้ระยะยาว พอร์ตผมยังสามารถดำเนินต่อไปได้ครับ

     

    การวางแผนกลยุทธ์เทรด Forex

    สรุปการวางแผนกลยุทธ์เทรด Forex ให้ไปถึงเป้าหมาย

    จากตัวอย่างทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่างมา หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์ที่เข้ามาอ่านนะครับ ซึ่งผมก็เข้าใจว่า ในการลงมือเทรด Forex จริง ทางข้างหน้ามันอาจจะไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เรา วางแผนไว้ เพราะความเป็นจริงนั้น ล้วนมีอุปสรรคอะไรหลายอย่างที่กระโดดเข้ามา จนทำให้เรารู้สึกท้อแท้กับเป้าหมายของตนเอง

    แต่การที่มีแผนการเทรดเป็น Step by Step แบบนี้ อย่างน้อยจะช่วยเป็นเหมือนแผนที่ให้เราไม่หลงทาง ซึ่งแผนการเทรด Forex จะช่วยให้เรามองเห็นตัวเลขได้อีกว่า เราเดินทางมากี่ % ผลการเทรดของเรามี Drawdown เท่าไหร่ หรือ Profit factor มากน้อยแค่ไหน และสิ่งสำคัญคือ เราต้องหมั่นทบทวนแผนการเทรดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำเราไปสู่ผลสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายไว้ครับ

    _________________________________

    หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนสามารถติดตาม ThaiForexReview ได้ผ่านช่องทางนี้

    ข่าวการเคลื่อนไหวของตลาดการ Forex ได้ที่ : News Forex

    อ่านบทความ Forex : Blogs Forex

    รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers Forex

    forex

    แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ

    ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

    Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
    ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

    การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

    © Copyright Thaiforexreview 2023. All rights reserved