Thaiforexreview.com เว็บไซต์รีวิวโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำ เพื่อเทรดเดอร์คนไทย
List of content
อยากลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ขณะเดียวกันก็อยากเพิ่มน้ำหนักในช่วงตลาดขาลง จะเลือกอย่างไรดี?! วันนี้ทีมงาน ThaiForexReview จะพาทุกท่านไปรู้จักกับกลยุทธ์การลงทุนแบบ VA ที่ได้รับพัฒนาจาก DCA มันจะเป็นอย่างไร แตกต่างกับแบบเดิมตรงไหน แล้วเหมาะกับใครบ้าง ไปติดตามกันครับ
การลงทุนแบบ VA หรือ Value Averaging คือ การถัวเฉลี่ยต้นทุนราคา ควบคู่ไปกับมูลค่าพอร์ตการลงทุน โดยเน้นที่ผลลัพธ์ของพอร์ต หรือมูลค่าสินทรัพย์เป็นหลักครับ อาจกล่าวได้ว่า มันเป็นการที่นักลงทุนจะต้องบริหารจัดการพอร์ตด้วยตัวเอง เพื่อให้พอร์ตของพวกเขาเติบโตอย่างสม่ำเสมอนั่นเองครับ
กลยุทธ์นี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากการลงทุนแบบ DCA โดย ดร. ไมเคิล เอเดลสัน (Michael E. Edleson) จากบริษัทมอร์แกนสแตนเลย์ (Morgan Stanley) อดีตอาจารย์สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ซึ่งจากผลการศึกษาหลายชิ้น พบว่า การเฉลี่ยมูลค่า (VA) สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการเฉลี่ยต้นทุน (DCA) เล็กน้อย
หากจะอธิบายเข้าใจได้ง่าย ๆ หน่อย ผมก็ขอยกตัวอย่าง เช่น ผมต้องการสร้างมูลค่าของสินทรัพย์ A ให้เป็น 10,000 บาท ภายใน 4 เดือน
หากเป็นการลงทุนแบบ DCA ผมจะต้องลงทุนในสินทรัพย์ A เฉลี่ย 2,500 บาท/เดือน เมื่อครบ 4 เดือน ผมจึงจะมีสินทรัพย์ A โดยใช้เงินทุนจำนวน 10,000 บาท
แต่หากเป็นการลงทุนแบบ VA มันจะเป็นการตั้งเป้าหมายไว้ และดูที่ “มูลค่าของพอร์ต” แทนครับ โดยเดือนแรกก็ลงทุนปกติเลย อาจจะมีการจับจังหวะตลาดสักหน่อย แต่เดือนต่อ ๆ ไป จะต้องดูมูลค่าของพอร์ตโดยรวมแทนครับว่า ขณะนั้นสินทรัพย์ A ที่เราถืออยู่ ขาดทุนหรือได้กำไร (Unrealized P/L) เท่าไหร่ เพื่อปรับเพิ่มและลดมูลค่าสินทรัพย์
เช่น หากสินทรัพย์ A ในเดือนที่ 3 ได้กำไร 700 บาท ผมก็จะขายกำไรส่วนนั้นเพื่อนำมาลงทุนเพิ่ม หรือซื้อสินทรัพย์ A เพิ่มเพียง 1,800 บาท แทนการลงทุน 2,500 บาท/เดือน และหากสินทรัพย์ A ขาดทุน ผมก็ต้องปรับเพิ่มการลงทุนในช่วงที่ราคาสินทรัพย์ยังถูกอยู่ เพื่อที่เมื่อราคาสินทรัพย์แพงขึ้น เราจะได้ไม่ต้องลงทุนเพิ่มครับ ซึ่งเราจะต้องทำเช่นนี้จนครบตามเป้า ในเวลา 4 เดือน
ดังนั้น เป้าหมายหลักของการลงทุนแบบ VA จึงคือ การได้สินทรัพย์เพิ่ม เมื่อราคาลดลง และได้สินทรัพย์น้อยลง เมื่อราคาสูงขึ้นครับ ซึ่งเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่การลงทุนของคุณมากขึ้นนั่นเองครับ
การลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) เป็นการลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน โดยการซื้อสินทรัพย์ในจำนวนเงินเท่ากันเป็นประจำทุกเดือน หรือตามเวลาที่เรากำหนด ส่วนการลงทุนแบบ VA เป็นการลงทุนที่ต่อยอดจาก DCA แต่เน้นที่ผลลัพธ์ของพอร์ต หรือปลายทางมากกว่าครับ แต่อย่างไรก็ดี การลงทุนทั้ง 2 แบบ ก็เน้นที่ “ความสม่ำเสมอ” เช่นเดียวกันครับ