Ichimoku Kinko Hyo คืออะไร? สายรันเทรนด์ตลาด Forex ห้ามพลาด!

ในการเทรด Forex การวิเคราะห์หาเทรนด์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก จะดีกว่าไหมครับ? ถ้าเรามีอินดิเคเตอร์ดี ๆ สักตัวที่ช่วยบอกได้ว่า ราคากำลังจะขึ้นหรือลง ทำให้การวางแผนการเทรดได้ง่ายขึ้น วันนี้ทางทีมงาน Thaiforexreview จะมาแนะนำอินดิเคเตอร์ Ichimoku Kinko Hyo หรือที่เรียกกันว่า Ichimoku Cloud (อินดิเคเตอร์ก้อนเมฆ) พร้อมวิธีใช้งานแบบเข้าใจง่ายกันครับ
Ichimoku Kinko Hyo คืออะไร?
Ichimoku Kinko Hyo (อ่านว่า อิ-ชิ-โม-กุ คิน-โค-เฮียว) หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า Ichimoku Cloud เพราะหน้าตาของมันมีส่วนที่คล้าย "ก้อนเมฆ" ลอยอยู่บนกราฟนั่นเองครับ
อินดิเคเตอร์ตัวนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยบอก "แนวโน้ม" หรือเทรนด์ของราคาเป็นหลัก เหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์สายที่ชอบถือออเดอร์ทำกำไรตามแนวโน้มไปยาว ๆ นอกจากนี้ เส้นต่าง ๆ ของมันยังใช้เป็นสัญญาณในการหาจังหวะเข้าซื้อหรือขายได้อีกด้วยครับ
ที่มาของ Ichimoku Kinko Hyo
อินดิเคเตอร์ตัวนี้มาจากประเทศญี่ปุ่นครับ ถูกคิดค้นโดยนักข่าวชาวญี่ปุ่นชื่อว่า Goichi Hosoda ในช่วงปี 1930 เขาใช้เวลากว่า 30 ปีในการพัฒนาและทดสอบจนมั่นใจ ก่อนจะนำมาเผยแพร่ให้ทุกคนได้ใช้กันในช่วงปี 1960
หัวใจของ Ichimoku มาจากแนวคิดของเส้นค่าเฉลี่ย (Moving Average) แต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษกว่าคือ มันสามารถ "กรองสัญญาณ" ให้เราได้ อธิบายง่าย ๆ คือ อินดิเคเตอร์ตัวนี้จะช่วยบอกว่า "จังหวะนี้ควรเทรด" หรือ "จังหวะนี้ยังไม่น่าเสี่ยง ควรรอดูไปก่อน" ซึ่งมีวิธีการดูที่ค่อนข้างง่ายมาก เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบถือออเดอร์ข้ามวัน หรือดูแนวโน้มใน Time Frame ใหญ่ ๆ ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไปครับ
ส่วนประกอบของ Ichimoku Kinko Hyo
เห็นเส้นเยอะ ๆ แบบนี้อย่าเพิ่งตกใจไปครับ จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ใช้งานยากอย่างที่คิด ถ้าสามารถเข้าใจได้ว่า แต่ละเส้นทำหน้าที่อะไร รับรองว่า จะใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญเลยครับ โดย Ichimoku มีส่วนประกอบหลัก ๆ 5 ส่วน ดังนี้
1. Tenkan-Sen (เส้นเร็ว) และ Kijun-Sen (เส้นช้า)
สองเส้นนี้มีพื้นฐานมาจาก เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) โดยมีหน้าที่เป็นตัวบ่งบอกแนวโน้มของราคา คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม และยังสามารถเป็นแนวรับแนวต้านได้อีกด้วยครับ
-
Tenkan-Sen (Conversion Line) : ลองนึกภาพว่าเป็น "เรือเร็ว" ที่วิ่งตามราคาไปติด ๆ ใช้ดูทิศทางในระยะสั้น (คำนวณจาก 9 แท่งเทียนล่าสุด)
-
Kijun-Sen (Base Line) : ส่วนเส้นนี้เปรียบเหมือน "เรือใหญ่" ที่มั่นคงกว่า ใช้วัดแนวโน้มหลักที่แข็งแรงกว่า (คำนวณจาก 26 แท่งเทียนล่าสุด)
หน้าที่ของ 2 เส้นนี้ คล้ายกับเส้น MA สองเส้นตัดกันครับ ถ้าเส้นเร็ว (Tenkan-Sen) ตัดขึ้นเหนือเส้นช้า (Kijun-Sen) ก็เป็นสัญญาณว่าราคามีโอกาสจะขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าเส้นเร็สตัดลงไปอยู่ใต้เส้นช้า ก็เป็นสัญญาณว่า ราคามีโอกาสจะลงนั่นเองครับ
2. Kumo (ก้อนเมฆ)
ส่วนนี้คือพระเอกของเราเลยครับ หรือที่เรียกว่า "ก้อนเมฆ" (Cloud) มีหน้าที่สำคัญ 2 อย่างคือ
-
บอกแนวโน้ม : กฎง่าย ๆ คือ ถ้าราคาอยู่เหนือก้อนเมฆ แสดงว่าเป็น "ขาขึ้น" เหมือนท้องฟ้าสดใส แต่ถ้า ราคาอยู่ใต้ก้อนเมฆ แสดงว่าเป็น "ขาลง" เหมือนมีเมฆฝนครับ
-
เป็นแนวรับ-แนวต้าน : ความหนาของก้อนเมฆยังบอกความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้ด้วย เมฆยิ่งหนา แนวรับ-แนวต้านยิ่งแข็งแกร่ง แต่ถ้าเมฆบาง ๆ ก็อาจจะถูกราคาทะลุผ่านไปได้ง่ายกว่าครับ
3. Chikou Span (เส้นยืนยันแนวโน้ม)
เส้นนี้จะถูกวาดถอยหลังไป 26 แท่งเทียนครับ ซึ่งเป็นเส้นที่ให้สัญญาณช้าที่สุด เนื่องจากว่า หน้าที่ของมันคือ "ตัวยืนยันสุดท้าย" ก่อนที่เราจะเข้าเทรด ลองนึกภาพตามนะครับ ถ้าทุกอย่างดูเป็นขาขึ้นหมดแล้ว (ราคาอยู่เหนือเมฆ, เส้นเร็วตัดเส้นช้าขึ้น) แล้วเส้น Chikou Span นี้ก็ลอยอยู่เหนือแท่งราคาในอดีตด้วย ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า "แนวโน้มขาขึ้นนี้แข็งแกร่งจริง ๆ"
การตั้งค่า Ichimoku Kinko Hyo
Ichimoku Kinko Hyo เป็นอินดิเคเตอร์สำเร็จรูปที่เราแทบไม่ต้องไปปรับค่าอะไรเลยครับ สามารถใช้ค่ามาตรฐานที่โปรแกรมให้มาได้เลย ซึ่งเหมาะกับ Time Frame ตั้งแต่ 1 ชั่วโมง (H1) ขึ้นไปครับ
วิธีเทรดด้วย Ichimoku Kinko Hyo แบบง่าย ๆ
หลักการสำคัญคือการดูองค์ประกอบทุกอย่างให้สอดคล้องกัน เพื่อกรองหาสัญญาณเทรดที่ชัดเจนที่สุดครับ
1. สัญญาณแนวโน้มขาขึ้น (Up Trend)
-
ราคาอยู่เหนือก้อนเมฆ (เหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า)
-
เส้นเร็ว (Tenkan-Sen) ตัดขึ้นและอยู่เหนือเส้นช้า (Kijun-Sen)
-
เส้นเงา (Chikou Span) ก็ต้องอยู่เหนือก้อนเมฆและแท่งราคาในอดีตด้วย
2. สัญญาณแนวโน้มขาลง (Down Trend)
-
ราคาอยู่ใต้ก้อนเมฆ
-
เส้นเร็ว (Tenkan-Sen) ตัดลงและอยู่ใต้เส้นช้า (Kijun-Sen)
-
เส้นเงา (Chikou Span) ก็ต้องอยู่ใต้ก้อนเมฆและแท่งราคาในอดีตด้วย
3. ช่วงที่ไม่มีแนวโน้ม (Sideway)
-
ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในก้อนเมฆ หรือสลับไปมาระหว่างก้อนเมฆ
-
เส้นเร็วกับเส้นช้าพันกันไปมา ไม่เลือกทิศทางที่ชัดเจน
-
เป็นช่วงที่อินดิเคเตอร์ไม่สามารถระบุทิศทางได้ ควรเลี่ยงการเทรดในช่วงดังกล่าว
ถ้าเจอลักษณะนี้ แนะนำว่า ควรจะรอให้กราฟเลือกทางที่ชัดเจนก่อนจะดีที่สุดครับ
ตัวอย่างการเทรด Forex ด้วย Ichimoku Kinko Hyo
ลองดูภาพตัวอย่างการเข้าเทรดขาขึ้นกันนะครับ
-
สัญญาณแรก : สังเกตว่าแท่งราคาสามารถ "ทะลุ" ก้อนเมฆขึ้นมาได้ และมีก้อนเมฆสีเขียวโผล่ขึ้นมา ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการกลับตัวเป็นขาขึ้นครับ
-
สัญญาณยืนยัน : เส้นเร็ว (Tenkan-Sen) และเส้นช้า (Kijun-Sen) ตัดกันขึ้นมาอยู่เหนือก้อนเมฆ พร้อมกับเส้นยืนยัน (Chikou Span) ที่ลอยอยู่เหนือเมฆเช่นกัน
-
หาจุดเข้า : หลังจากราคาพุ่งขึ้นไปแล้ว มักจะมีการ "ย่อตัว" กลับมาทดสอบที่เส้น Tenkan-Sen หรือ Kijun-Sen โดยราคาต้องย่อลงมาแต่ไม่หลุดต่ำกว่าเส้นเหล่านี้ ซึ่งเป็นจังหวะที่แนะนำให้เข้าซื้อครับ
☁️ จำง่าย ๆ : ราคาอยู่ "เหนือเมฆ" เทรนด์เป็น "ขาขึ้น" ราคาอยู่ "ใต้เมฆ" เทรนด์เป็น "ขาลง" ☁️
📝 ทริคแนะนำเพิ่มเติม : เทรดเดอร์สามารถทำการยืนยันความแข็งแกร่งแนวโน้มได้เพิ่มเติมจากการใช้อินดิเคเตอร์ Ichimoku ไล่ดูราคาในกรอบเวลา (Time Frame) ที่แตกต่างกันอย่างน้อย 2 กรอบเวลา โดยแนะนำให้ดูกรอบเวลาตั้งแต่ 1 ชั่วโมง 4 ชั่วโมง และ 1 วัน โดย 2 จาก 3 กรอบเวลานี้ จะต้องมีแนวโน้มเดียวกัน เช่น ถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้น ก็ต้องขึ้นเหมือนกันหมด โดยที่เส้นสัญญาณต่าง ๆ จะต้องขึ้นมาพ้นก้อนเมฆทั้งหมด การกระทำดังกล่าวนี้ จะเป็นการช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้เป็นอย่างดีครับ
ประโยชน์ของ Ichimoku Kinko Hyo
ข้อดีของ Ichimoku Kinko Hyo |
ข้อจำกัดของ Ichimoku Kinko Hyo |
|
|
📍 อินดิเคเตอร์ Ichimoku Kinko Hyo เป็นเหมือน "แผนที่" ที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของตลาดได้ดีขึ้น แต่เพื่อให้การเทรดมีประสิทธิภาพสูงสุด เทรดเดอร์ควรศึกษาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ข่าวเศรษฐกิจ และที่สำคัญที่สุดคือการบริหารจัดการเงินทุน (Money Management) เพื่อโอกาสทำกำไรในระยะยาวครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ichimoku Kinko Hyo
Ichimoku Kinko Hyo ดีไหม?
ดีมากครับสำหรับการเทรดตามแนวโน้มใน Time Frame ใหญ่ ๆ เพราะมันรวมข้อมูลจากหลายส่วนประกอบไว้ในที่เดียว ทำให้เราได้มุมมองที่ครบถ้วน
Ichimoku Kinko Hyo ใช้งานยังไง?
อินดิเคเตอร์ Ichimoku สามารถใช้งานได้ฟรีบนแพลตฟอร์มการเทรดอย่าง MetaTrade และ TradingView โดยจะใช้เพื่อหาแนวโน้มที่แข็งแกร่งของราคา และหาจุดเข้าเทรดจากเส้นสัญญาณทั้ง 4 เส้น ได้แก่ เส้น Tenkan-Sen (เส้นเร็ว) , Kijun-Sen (เส้นช้า), Kumo (ก้อนเมฆ) และ Chikou Span (เส้นยืนยันแนวโน้ม) เมื่อราคาอยู่เหนือเมฆ (Kumo) และเส้นสัญญาณทุกอย่างขึ้นมาอยู่เหนือเมฆทั้งหมดแล้ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ราคามีโอกาสกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งแล้วนั่นเองครับ
สรุป Ichimoku Kinko Hyo
อินดิเคเตอร์ Ichimoku Kinko Hyo เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงมากในหมู่นักเทรดทั่วโลก เพราะแม้จะดูมีเส้นเยอะ แต่หลักการใช้งานนั้นตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย เหมาะอย่างยิ่งกับการเทรดในระยะกลางถึงยาว ถ้าเราหาจังหวะเข้าเทรดที่ดีได้ ก็มีโอกาสทำกำไรตามเทรนด์ไปได้ยาว ๆ เลยครับ
นอกจากนี้ เรายังสามารถนำอินดิเคเตอร์ประเภทอื่น ๆ เช่น RSI หรือ MACD มาใช้ร่วมด้วยเพื่อช่วยยืนยันสัญญาณการกลับตัว หรือดูภาวะซื้อมากเกินไป-ขายมากเกินไป (Overbought/Oversold) เพื่อเพิ่มความแม่นยำได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอินดิเคเตอร์ตัวไหนที่แม่นยำ 100% นะครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เทรดเดอร์ควรตั้ง Stop Loss ทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสี่ยง และหมั่นเรียนรู้ฝึกฝนอยู่เสมอ เพื่อที่เราจะสามารถปรับตัวและอยู่รอดในตลาด Forex ได้อย่างยั่งยืนครับ
หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม
สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com
ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview
ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers
แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ
