7 โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ อัปเดตปี 2025

โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือนับว่าจำเป็นอย่างมากในการเริ่มต้นเทรด การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีก็ถือว่า มีชัยไปมากกว่าครึ่งครับ เพราะโบรกเกอร์ Forex ถือเป็นตัวกลางในการส่งคำสั่งซื้อขายของเรา ซึ่งโอกาสในการขาดทุนหรือได้กำไรก็จะขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ด้วย ในปัจจุบันมีโบรกเกอร์จำนวนมากที่เปิดให้บริการ ทำให้อาจมีมิจฉาชีพเข้ามาแอบแฝงตัวและใช้ช่องว่างนี้ในการหลอกลวงได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ เทรดเดอร์จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลการให้บริการของโบรกเกอร์ Forex ให้ดีก่อนว่า โบรกเกอร์ที่คุณเลือกนั้น มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือหรือไม่? ในวันนี้ Thaiforexreview จึงอยากแนะนำโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ 2025 เพื่อให้คุณสามารถคัดเลือกโบรกเกอร์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณให้ได้มากที่สุดครับ

การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเทรดเดอร์ในการส่งคำสั่งซื้อขาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถกำไรได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ โบรกเกอร์ควรมีบริการที่ตอบสนองสไตล์การเทรดของคุณ เพื่อให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ยังมีความสับสนว่า จะเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือปี 2025 อย่างไร? วันนี้ทีมงานได้รวบรวม 7 หลักเกณฑ์เบื้องต้นในการคัดเลือกโบรกเกอร์ Forex โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 

• ใบอนุญาต กล่าวคือ โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือควรมีใบอนุญาตและมีหน่วยงานกำกับดูแลที่ถูกต้อง

• แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ คือ เครื่องมือตัวกลางที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถส่งคำสั่งซื้อ-ขายไปยังโบรกเกอร์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

• ค่าสเปรด คือ ค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากเทรดเดอร์ โดยปกติแล้วค่าสเปรดเป็นส่วนต่างของราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) โดยแต่ละโบรกเกอร์จะมีค่าสเปรดที่แตกต่างกันออกไป หากโบรกเกอร์ใดมีค่าสเปรดต่ำก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เทรดเดอร์ทำกำไรที่มากขึ้น

• ค่าสวอป คือ ค่าธรรมเนียมเมื่อเทรดเดอร์มีการถือออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งค่าสวอปจะคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยของแต่ละคู่สกุลเงิน

• ค่าคอมมิชชัน คือ ค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพิ่มเติมที่โบรกเกอร์ทำการเรียกเก็บจากเทรดเดอร์ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์จะมีวิธีการคิดค่าคอมมิชชันที่แตกต่างกัน

• เงินฝากขั้นต่ำ หากโบรกเกอร์ที่มีเงินฝากเริ่มต้นที่ต่ำ จะช่วยให้เทรดเดอร์ไม่ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงจนเกินไป และช่วยให้เข้าถึงการลงทุนได้ง่ายมากขึ้น

• การบริการลูกค้า (Customer Support) เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ควรพิจารณาเช่นกัน เพราะโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือนั้น ควรมีทีมงานที่สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ Swissquote

Swissquote ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 และเป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำด้านบริการทางการเงินและสินเชื่อออนไลน์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Gland ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีสำนักงานในลอนดอน เบิร์น ซูริค ลักเซมเบิร์ก ดูไบ มอลตา สิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่ง Swissquote เป็นโบรกเกอร์ Forex ออนไลน์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีการจดทะเบียนใน SIX Swiss Exchange เป็น Swissquote Group Holding Ltd ซึ่งจดทะเบียนใน SQN ด้วย

Swissquote ให้บริการกองทุน, ตราสารอนุพันธ์, พันธบัตร, Forex, CFD สกุลเงินดิจิทัล และหุ้น โดยมีผู้ใช้มากกว่า 330,000 รายที่เข้าถึงแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนหุ้นทั่วโลกมากกว่า 60 แห่งได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้ผู้ค้าสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์ 3 ล้านรายการบนแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ มากกว่านั้น Swissquote ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงอีกด้วยครับ

ใบอนุญาตและการรับรองของ Swissquote

Swissquote มีใบอนุญาตและการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล ดังต่อไปนี้

• FINMA : Swiss Financial Market Supervisory Authority

• FCA : Financial Conduct Authority

• DFSA : The Independent Regulator of Financial Services

• SFC : The Securities and Futures Commission

• MFSA : The Malta Financial Services Authority

• MAS : Monetary Authority of Singapore

การให้บริการของโบรกเกอร์ Swissquote

*หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลสำหรับบัญชี Standard เท่านั้น

สำหรับหน้าเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ Swissquote ถือว่าให้ข้อมูลที่ครบถ้วนทั้งในเรื่องของจำนวนการฝากถอน ค่า Spread ค่า Commission ตลอดจนถึงการให้ข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจต่าง ๆ 

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ Swissquote

Swissquote ฝากถอนเงินได้จริงไหม?

การให้บริการของ Support

ในส่วนของ Support ของ Swissquote จะเป็นการใช้ Chat Bot ตอบในส่วนแรก หากต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่จะต้องทำการติดต่อทาง Call Center โดยจะให้บริการตลอด 24/5 เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น 

ข้อดีและข้อเสียของ Swissquote

Swissquote เป็นโบรกเกอร์รายใหญ่ที่มีการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างดีเยี่ยม โดยได้รับใบอนุญาตจาก 6 หน่วยงานระดับสูง ได้แก่ FINMA, FCA, DFSA, SFC, MFSA และ MAS นอกจากนี้ Swissquote เป็นธนาคารจึงทำให้มีความน่าเชื่อถืออย่างมากนั่นเองครับ

แต่ว่าข้อเสียของการเป็นธนาคาร จึงทำให้ในส่วนของการฝากถอนเงินเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากจะต้องมีการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากทางธนาคาร ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการที่มากกว่า 1 วัน หรืออาจนานถึง 1 สัปดาห์ อีกทั้งยังต้องใช้เงินทุนค่อนข้างเยอะ และในส่วนของหน้าเว็บยังไม่รองรับภาษาไทย ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับเทรดเดอร์รายย่อยชาวไทยเท่าไหร่นัก

อ่านรีวิว Swissquote

เปิดบัญชี Swissquote

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ Saxo

Saxo ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 โดยเป็นบริษัทเอกชน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และสามารถสร้างความแตกต่างให้กลายเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มด้าน Broker ชั้นนำในยุโรป โดยความปลอดภัยของการซื้อขายได้รับการรับรองโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินมากกว่า 10 แห่ง

ใบอนุญาตและการรับรองของ Saxo

Saxo มีใบอนุญาตและการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล ดังต่อไปนี้

• ASIC : Australian Securities & Investment Commission

• SFC : Securities Futures Commission

• JFSA : Japanese Financial Services Authority

• MAS : Monetary Authority of Singapore

• FINMA : Swiss Financial Market Supervisory Authority

• FCA : Financial Conduct Authority

การให้บริการของโบรกเกอร์ Saxo

*หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลสำหรับบัญชี Classic เท่านั้น

สำหรับหน้าเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ Saxo ถือว่าให้ข้อมูลที่ครบถ้วน โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาและมีความน่าเชื่อถือพอสมควรเลยครับ

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ Saxo

Saxo ฝากถอนเงินได้จริงไหม?

การให้บริการของ Support

สำหรับ Support ของ Saxo จะให้บริการตลอด 24/5 เป็นภาษาอังกฤษและไม่รองรับภาษาไทย โดยการให้บริการในวันเสาร์และอาทิตย์จะเป็นเพียงศูนย์ Support ที่ให้นักลงทุนเข้าไปค้นหาคำถามและคำตอบด้วยตัวเองเท่านั้น 

ข้อดีและข้อเสียของ Saxo

Saxo ให้บริการการซื้อขายหลายรูปแบบ ทั้งเป็นการซื้อขายแบบจริง ๆ และแบบ CFD โดยมีตราสารในการลงทุนที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีระบบจัดการกองทุนให้สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาในการจัดการพอร์ตการลงทุนของตัวเองอีกด้วย แต่สำหรับจุดอ่อนของ Saxo นั้นจะเป็นเรื่องของ Support ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่จะให้นักลงทุนเข้าไปค้นหาคำถามและคำตอบเองในศูนย์ Support ซึ่งถือว่าไม่ค่อยสะดวกต่อนักลงทุนเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ Support ในวันปกติถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเลยครับ

เปิดบัญชี Saxo

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ IUX

IUX เป็นโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ให้บริการการเทรด Forex และ CFDs ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคู่แข่งสำคัญของโบรกเกอร์ยอดนิยมในหมู่เทรดเดอร์ชาวไทย ด้วยจุดเด่นในเรื่องค่าสเปรดที่ต่ำ, ความเร็วในการฝาก-ถอนที่รวดเร็ว และการบริการลูกค้าที่มีความเป็นมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ระบบการเทรดของ IUX มีความเสถียรและไม่มีปัญหาในการส่งคำสั่งซื้อขาย แม้ในช่วงที่มีข่าวสารสำคัญ ด้วยประสิทธิภาพในการส่งคำสั่งที่รวดเร็วเพียง 30 มิลลิวินาที จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะไม่พลาดทุกโอกาสในการเทรดครับ

ใบอนุญาตและการรับรองของ IUX

IUX มีใบอนุญาตและการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล ดังต่อไปนี้

• ASIC : Australian Securities & Investment Commission
• SVGFSA : Financial Services Authority in Saint Vincent and the Grenadines
• FSCA : Financial Sector Conduct Authority (FSCA)
• FSC Mauritius : Mauritius Financial Services Commission

การให้บริการของโบรกเกอร์ IUX

*หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลสำหรับบัญชี Standard เท่านั้น

สำหรับหน้าเว็บไซต์ของ IUX มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องของค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และยังมีการแสดงจุดยืนว่าจะเป็นโบรกเกอร์ที่มีความโปร่งใส นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ในการเทรดบนหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนเป็นอย่างมากครับ

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ IUX

 IUX ฝากถอนเงินได้จริงไหม?

การให้บริการของ Support

สำหรับ Support ของ IUX จะเป็นบริการ Live Chat ที่รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษตลอด 24/7 ซึ่งหลังจากที่เคยได้ใช้บริการแล้ว Support ของ IUX ให้บริการอย่างรวดเร็วและให้คำตอบอย่างละเอียด ซึ่งสามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดีครับ

ข้อดีและข้อเสียของ IUX

IUX เป็นโบรกเกอร์สำหรับการซื้อขาย CFD ที่มีค่าสเปรดและค่าธรรมเนียมที่ต่ำเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของ IUX นอกจากนี้ยังมีบริการที่รวดเร็วทั้งในเรื่องการฝาก-ถอน และการส่งคำสั่งซื้อขาย โดย IUX มุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่โปร่งใสและตรงไปตรงมา อีกทั้งยังมีโปรโมชันที่น่าสนใจสำหรับทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน พร้อมให้บริการซัพพอร์ตตลอด 24/7 ทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาไทย อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของ IUX คือ ไม่มีการรองรับการเทรดบนแพลตฟอร์ม MT4 และไม่เปิดให้บริการ Copy Trade

อ่านรีวิว IUX

เปิดบัญชี IUX

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ Pepperstone

Pepperstone โบรกเกอร์ชั้นนำของออสเตรเลีย Fintech ที่เป็นต้นแบบทั่วโลก แบรนด์ทางการค้าของ Pepperstone Markets Limited ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 จากทีมเทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์และความต้องการที่จะพัฒนาโลกของการซื้อขายเงินตราในระบบออนไลน์ จนทำให้ Pepperstone เติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ Forex ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย และให้บริการการเทรดกว่า 176 ประเทศ นอกจากนี้ Pepperstone ยังอยู่ภายใต้ใบอนุญาตระดับสูงกว่า 7 หน่วยงาน

ใบอนุญาตและการรับรองของ Pepperstone

Pepperstone มีใบอนุญาตและการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล ดังต่อไปนี้

• SCB : Securities Commission of The Bahamas

• CMA : Capital Markets Authority

• DFSA : Dubai Financial Services Authority

• CySEC : Cyprus Securities and Exchange Commission 

• ASIC : Australian Securities and Investments Commission

• BaFin : Federal Financial Supervisory Authority

• FCA : Financial Conduct Authority

การให้บริการของโบรกเกอร์ Pepperstone

*หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลสำหรับบัญชี Standard เท่านั้น

สำหรับหน้าเว็บของ Pepperstone ถือว่ามีข้อมูลที่ครบถ้วนพอ ๆ กับ 3 โบรกแรกเลยครับ โดยโบรกเกอร์นี้จะมีข้อมูลค่าสเปรดเหมือนกับตอนที่เทรดจริง ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการเปรียบเทียบเพื่อเลือกโบรกเกอร์ได้แบบไม่ต้องเข้าไปทดลองใช้ก่อนได้เลยครับ 

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ Pepperstone

Pepperstone ฝากถอนเงินได้จริงไหม?

การให้บริการของ Support

Pepperstone มีการสนับสนุนลูกค้าผ่านช่องทาง Live Chat และช่องทางอื่น ๆ ที่เป็นภาษาไทย ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วง 5 วันทำการ ทั้งนี้ หลังจากการทดลองใช้งาน พบว่า Pepperstone มีการใช้ Bot ในการตอบ ดังนั้น คุณจึงได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว แต่หากคุณต้องการสอบถามปัญหาในการใช้งานเชิงลึก อาจจะต้องใช้เวลาในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่

ข้อดีและข้อเสียของ Pepperstone

Pepperstone ให้ค่าสเปรดที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ โดยให้บริการเทรดบนแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง TradingView, MT4, MT5, และ cTrader นอกจากนี้ยังได้รับการควบคุมจาก 7 หน่วยงานระดับสูง แต่จุดอ่อนของ Pepperstone คือส่วนของการ Support ที่มีการใช้ Chat Bot ในการตอบก่อน และหากคุณต้องการสอบถามปัญหาในการใช้งานเชิงลึก อาจจะต้องใช้เวลาในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการเก็บค่า Swap และไม่มีโบนัส แต่โดยรวมแล้ว Pepperstone ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกชั้นดีเลยครับ

อ่านรีวิว Pepperstone

เปิดบัญชี Pepperstone

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ FBS

FBS เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ก่อตั้งในปี 2009 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศเบลีซ โบรกเกอร์ FBS ให้บริการซื้อขาย Forex และ CFD แก่เทรดเดอร์ทั่วโลก จุดเด่นของ FBS คือ มีโมเดลการดำเนินการ STP ส่งผลให้คำสั่งซื้อขายของลูกค้ากว่า 95% ถูกจับคู่ภายใน 0.01 วินาทีเท่านั้นครับ นอกจากนี้ FBS ยังรองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น MT4 และ MT5 รวมทั้งมี FBS App ให้บริการอีกด้วย

ใบอนุญาตและการรับรองของ FBS

โบรกเกอร์ FBS ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล ดังต่อไปนี้

• FSC Belize : Financial Services Commission
• CySEC : Cyprus Securities and Exchange Commission
• ASIC : Australian Securities and Investments Commission

การให้บริการของโบรกเกอร์ FBS

*หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลสำหรับบัญชี Standard เท่านั้น

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ FBS

การให้บริการของ Support

FBS มีการสนับสนุนลูกค้าผ่านช่องทาง Live Chat และช่องทางอื่น ๆ โดยทีม Customer Support เป็นภาษาไทย ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมี Chat Bot ที่คอยให้บริการสำหรับการตอบคำถามเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว

ข้อดีและข้อเสียของ FBS

FBS มีสินทรัพย์การเทรดที่หลากหลาย ให้ Leverage ที่สูงอยู่ที่ 1:3000 แต่ประเภทบัญชีนั้น มีแค่บัญชีเดียว รวมถึงจะไม่ค่อยได้พบเห็น การให้โปรโมชันหรือโบนัสครับ

อ่านรีวิว FBS

เปิดบัญชี FBS

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ IC Markets

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน หลังจาก 15 ปีของการดำเนินงานและการพัฒนา IC Markets มุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขาย Forex CFD ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีที่สุดและสร้างสรรค์เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

ใบอนุญาตและการรับรองของ IC Markets

IC Markets มีใบอนุญาตและการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล ดังต่อไปนี้

• FSA : Financial Financial Services Authority

การให้บริการของโบรกเกอร์ IC Markets

*หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลสำหรับบัญชี Standard เท่านั้น

สำหรับหน้าเว็บไซต์ของ IC Markets ถือว่าให้ข้อมูลมาค่อนข้างครบถ้วน โดยเฉพาะข้อมูลในส่วนของการเริ่มต้นเทรด Forex ซึ่งเป็นเหมือนกับศูนย์การเรียนรู้ เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่อย่างมากครับ

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ IC Markets

IC Markets ฝากถอนเงินได้จริงไหม?

การให้บริการของ Support

IC Markets มีการสนับสนุนลูกค้าผ่านช่องทาง Live Chat และช่องทางอื่น ๆ ที่เป็นภาษาไทยทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง แต่ส่วนมากจะใช้ Bot ในการตอบ หากต้องการคุยกับเจ้าหน้าที่คนไทย คุณจะต้องแจ้งผ่านระบบและต้องรอคิวค่อนข้างนานครับ

ข้อดีและข้อเสียของ IC Markets

IC Markets เป็นอีกโบรกเกอร์ที่ให้ค่าสเปรดค่อนข้างต่ำ และมีการคิดค่าธรรมเนียมในระดับมาตรฐาน ในส่วนของการ Support จะให้บริการตลอด 24/7 โดยรองรับภาษาไทย แต่ส่วนมากจะใช้ Bot ในการตอบ หากต้องการคุยกับเจ้าหน้าที่คนไทย คุณจะต้องแจ้งผ่านระบบและต้องรอคิวค่อนข้างนานครับ และในส่วนของการถอนเงินจะใช้เวลาค่อนข้างนานและไม่ดำเนินการให้ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ อีกข้อที่แตกต่างจากโบรกเกอร์อื่น ๆ เลยคือ จำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่สูงมาก ดังนั้น หากคุณเป็นเทรดเดอร์รายย่อยอาจจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมให้ถี่ถ้วน เนื่องจากคุณสมบัติอื่น ๆ ของ IC Markets ค่อนข้างคล้ายคลึงกับโบรกเกอร์อื่น ๆ ครับ

อ่านรีวิว IC Markets

เปิดบัญชี IC Markets

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ GMI Markets

GMI Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียง ก่อตั้งในปี 2009 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่วานูอาตู เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท GMI ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 10 ปี มีชื่อเสียงในด้านระบบที่ทันสมัย ไม่มีปัญหา Requotes และ No Rejection นอกจากนี้ GMI Markets ยังได้รับรางวัลมากมาย และมีเครื่องมือการซื้อขายให้เลือกหลากหลายประเภท

ใบอนุญาตและการรับรองของ GMI Markets

GMI Markets มีใบอนุญาตและการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล ดังต่อไปนี้

• FSC : Financial Services Commission

การให้บริการของโบรกเกอร์ GMI Markets

*หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลสำหรับบัญชี Standard เท่านั้น

สำหรับหน้าเว็บไซต์ของ GMI Markets ถือว่าให้ข้อมูลมาไม่ค่อยครบถ้วนเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเรื่องของค่าสเปรดที่ไม่ได้บอกว่ามาจากบัญชีใด ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนสับสนได้

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ GMI Markets

GMI Markets ฝากถอนเงินได้จริงไหม?

การให้บริการของ Support

GMI Markets มีช่องทางการบริการลูกค้าหลากหลายช่องทาง เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามหรือขอความช่วยเหลือได้สะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น Live Chat, อีเมล, โทรศัพท์ หรือศูนย์ช่วยเหลือ ที่รวบรวมคำถามที่พบบ่อยและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ ไว้ให้ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยตนเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้บริการตลอด 24/7 

ข้อดีและข้อเสียของ GMI Markets

GMI Markets เป็นโบรกเกอร์ที่โดดเด่นด้วยตราสารที่หลากหลายและเลเวอเรจสูง เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความยืดหยุ่นในการลงทุน อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาคือค่าคอมมิชชันที่ค่อนข้างสูง กฎ Stop Out ที่เข้มงวด และจำนวนเงินฝากถอนขั้นต่ำที่สูง นอกจากนี้ ผู้ใช้งานบางส่วนมีการรายงานปัญหาเกี่ยวกับการฝากถอนล่าช้า และการเกิดออเดอร์ดีเลย์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการ

อ่านรีวิว GMI Markets

เปิดบัญชี GMI Markets

• หมายเหตุ ตารางสรุปรวม 7 โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ 2025 อ้างอิงจากบัญชี Standard ของแต่ละโบรกเกอร์ ซึ่งเป็นบัญชีที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้กัน

รีวิวจัดอันดับโบรกเกอร์ Forex 2025 ที่น่าสนใจ

• แนะนำเทรด Forex โบรกไหนดี ? รวมจัดอันดับ Ranking
• แนะนำ 5 โบรกเกอร์ IB Forex ที่คุ้มที่สุดสำหรับ Partner
• 10 โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรี
• แนะนำ 5 โบรกเกอร์เทรดทองที่ดีที่สุด

Q : หลักเกณฑ์ในการพิจารณาโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ 2025 มีอะไรบ้าง?

A : การพิจารณาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือมีอยู่ 7 หลักเกณฑ์ ได้แก่ ใบอนุญาต, แพลตฟอร์ม, ค่าสเปรด, ค่าสวอป, ค่าธรรมเนียม, เงินฝากขั้นต่ำ และการบริการลูกค้า

Q : 7 โบรกเกอร์ ที่น่าเชื่อถือในไทย มีโบรกไหนบ้าง? 

A : โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือในไทย ได้แก่ Swissquote, Saxo, IUX, Pepperstone, FBS, IC Markets และ GMI Markets

Q : โบรกเกอร์ Forex ที่ กลต. รับรอง มีโบรกไหนบ้าง ?

A : ในปัจจุบันยังไม่มีโบรกเกอร์ Forex หรือโบรกเกอร์ CFDs ที่ได้รับการรับรองจาก กลต. 

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า 7 โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือล้วนมีใบอนุญาตและหน่วยงานกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม การเลือกโบรกเกอร์ที่มีคุณภาพไม่ได้พิจารณาเพียงแค่ใบอนุญาตเท่านั้น เนื่องจากในปัจจุบันมีสัญญาณหลายประการที่อาจบ่งชี้ถึงการฉ้อโกงจากโบรกเกอร์ เช่น ขาดความโปร่งใส, ไม่มีใบอนุญาต, ข้อมูลบนเว็บไซต์ไม่ชัดเจน หรือมีปัญหาในการฝากถอนเงิน ดังนั้น ควรระมัดระวังและตรวจสอบให้รอบคอบเสมอ เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง และไม่อาจรับประกันผลกำไรได้อย่างแน่นอน 100%

ทางทีมงาน Thaiforexreview ก็หวังว่า บทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คุณค้นหาโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะกับคุณที่สุด ซึ่งการเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสมจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อคุณ ดังนั้น โปรดเลือกโบรกเกอร์ Forex อย่างรอบคอบและเหมาะสมกับคุณครับ อย่างไรก็ดี บทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูล โดยอิงจากหน้าเว็บไซต์ของโบรกเกอร์และรีวิวจากการใช้งานจริงของเทรดเดอร์เท่านั้น ทางเราไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการชี้นำการลงทุน ดังนั้น หากคุณสนใจโบรกเกอร์ใด โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจใช้งาน ด้วยความปรารถนาดีจาก Thaiforexreview

กลับขึ้นไปด้านบน

หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม

สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com

ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview

ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ Forex ได้ที่ Forex Analysis

อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers