List of content
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า "Leverage" กันจนหนาหูแล้ว เครื่องมือตัวนี้ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากในตลาด Forex ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีอำนาจการซื้อขายมากขึ้น โดยที่เงินทุนของเรายังเท่าเดิมครับ แต่แน่นอนว่า มันก็สามารถทำให้เราขาดทุนมากขึ้นด้วยเช่นกัน วันนี้ทางทีมงาน ThaiForexReview จะพาทุกคน ไปรู้จักกับ Leverage ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถนำมาปรับใช้ในการเทรด และช่วยให้ทุกคน ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเลือกใช้ Leverage ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลยครับ
Leverage คือ เงินยืมจากโบรกเกอร์บางส่วน เพื่อทำการเปิดออเดอร์สินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากกว่าเงินที่นักเทรดมีอยู่จริง เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่การเทรดที่มีปริมาณมากกว่าจำนวนเงินจริงในการฝากเพื่อเทรดหลายเท่าตัว หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่า Leverage เป็นเงินกู้ที่ทางโบรกเกอร์จัดหาให้กับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ โดยเทรดเดอร์สามารถใช้ Leverage ได้ฟรีตลอดเวลา และที่สำคัญ คือ โบรกเกอร์จะให้ใช้ Leverage โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ยจากจำนวนหนี้อีกด้วย
Leverage เป็นทางเลือกที่โบรกเกอร์มอบให้สำหรับเทรดเดอร์ ช่วยให้เราสามารถส่งคำสั่งซื้อขายในปริมาณที่สูงขึ้นได้ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์จะมีขีดจำกัดของ Leverage ที่แตกต่างกัน เริ่มจาก 1:1 ไปจนถึง 1:ไม่จำกัด ดังนั้น การกำหนด Leverage สูงหรือต่ำก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน โดย Leverage มีความสัมพันธ์กับ Lot Size ในการเทรด ดังนั้น การกำหนด Leverage ที่สูงขึ้นจะช่วยให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายใน Lot Size ที่ใหญ่ขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น
เงินทุน $1,000, Leverage 1:100 > Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 1.00 (100,000 Unit)
เงินทุน $1,000, Leverage 1:200 > Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 2.00 (200,000 Unit)
เงินทุน $1,000, Leverage 1:500 > Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 5.00 (500,000 Unit)
เทรดเดอร์จึงควรศึกษาให้เข้าใจก่อนเลือก Leverage ให้เหมาะกับการเทรดของตนเอง ดังนี้
การเลือก Leverage ต่ำ จะทำให้เทรดเดอร์สามารถเปิดออเดอร์ได้มากขึ้นเล็กน้อย
เช่น เทรดเดอร์มีเงินทุน $1,000 หากเลือก Leverage 1:100 เทรดเดอร์จะสามารถเปิดออเดอร์ได้สูงสุดเพียง 1 Lot และทุกการเคลื่อนที่ 1 Pip จะเป็นเงิน $10 ต่อ 1 Lot
ดังนั้น แสดงว่า 1 Lot เคลื่อนที่ 1 Pip จะเป็นเงิน $10 ถ้าราคาเคลื่อนที่ไปผิดทาง 100 Pips เงินลงทุนจะเหลือ 0 ทันที แต่หากเคลื่อนที่ไปถูกทางก็จะมีกำไรแต่น้อยกว่าแบบใช้ Leverage สูง
การเลือก Leverage สูง จะทำให้เทรดเดอร์สามารถเปิดออเดอร์ได้มากขึ้น ซื้อขายได้มากยิ่งขึ้น
เช่น เทรดเดอร์มีเงินทุน $1,000 หากเลือก Leverage 1:2,000 เทรดเดอร์จะสามารถเปิดออเดอร์ได้สูงสุดถึง 20 Lot และทุกการเคลื่อนที่ 1 Pip จะเป็นเงิน $10 ต่อ 1 Lot
ดังนั้น แสดงว่า 20 Lot เคลื่อนที่ 1 Pip จะเป็นเงิน $200 ถ้าราคาเคลื่อนที่ไปผิดทางเพียง 5 Pips เงินลงทุนจะเหลือ 0 ทันที เรียกได้ว่า แค่กราฟแกว่งตัวก็สามารถพอร์ตแตกได้ แต่หากเคลื่อนที่ไปถูกทางก็จะมีกำไรอย่างมากเช่นกัน
Leverage 1:1 หมายความว่า เทรดเดอร์เทรดด้วยเงินทุนของตัวเองเท่านั้น อัตราส่วนระหว่างเงินฝากของเทรดเดอร์และจำนวนเงินที่เทรด นั่นคือถ้าเทรดเดอร์มีเงิน 100 ดอลลาร์ จะไม่สามารถเปิดคำสั่งที่มีปริมาณรวมมากกว่า 100 ดอลลาร์ได้
Leverage 1:1,000 หมายความว่า เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะได้มากกว่า 1,000 เท่าของปริมาณเงินทุน หมายความว่า ถ้าคุณมี 100 ดอลลาร์ คุณสามารถเปิดสถานะ 100 ดอลลาร์ * 1,000 = 100,000 ดอลลาร์
หมายความว่า คุณสามารถเปิดออเดอร์โดยใช้ Lot Size ขนาดสูงสุดได้ที่ 1.00 โดยใน Lot ขนาด 1.00 นั้น หากราคาเคลื่อนที่ไป 1 Pip จะเท่ากับ $10 โดยเฉลี่ย
หากเราใช้ทุน $1,000 แล้วเทรดขนาด Lot สูงสุด 1.00 ถ้าขาดทุน 100 Pips ก็จะล้างพอร์ต ถ้ากำไร 100 Pips ก็จะกำไร $1,000
หมายความว่า เราสามารถเปิดออเดอร์โดยใช้ Lot Size ขนาดสูงสุดได้ที่ 2.00 โดยใน Lot ขนาด 2.00 นั้น หากราคาเคลื่อนที่ไป 1 Pip จะเท่ากับ $20 โดยเฉลี่ย
หากเราใช้ทุน $1,000 แล้วเทรดขนาด Lot สูงสุด 2.00 ถ้าขาดทุน 50 Pips ก็จะล้างพอร์ต ถ้ากำไร 50 Pips ก็จะกำไร $1,000
Leverage ไม่เกี่ยวกับมูลค่าของ Lot และ Pip ไม่ว่าคุณจะตั้งค่า Leverage เป็นจำนวนเท่าไหร่ การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 Pip (กำไร/ขาดทุน) ก็ยังคงเท่าเดิม การตั้งค่า Leverage ที่สูงขึ้น ช่วยให้เราสามารถเปิดออเดอร์ โดยใช้ Lot ที่สูงขึ้นได้ หรือก็คือสามารถเปิดออเดอร์ได้มากยิ่งขึ้น โดยใช้เงินทุนเท่าเดิม
การใช้ Leverage เพื่อทำกำไรจะทำให้ได้กำไรมากกว่าปกติ และแน่นอนว่า มันสามารถทำให้เกิดการขาดทุนอย่างหนักได้เช่นกัน ดังนั้น เทรดเดอร์ควรมีการพิจารณาการใช้ Leverage ให้เหมาะสมกับการเทรด รวมถึงรู้วิธีรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยวิธีการ ดังนี้
1.เทรดเดอร์ที่ใช้ Leverage ควรเข้าใจเทคนิคการตั้ง Stop Loss เป็นอย่างดี เพราะหากราคาเคลื่อนที่ผิดทางที่คาดไว้ จะช่วยให้พอร์ตไม่แตก จากนั้นจึงดูแนวโน้มใหม่ก่อนทำการออกออเดอร์อีกครั้ง
2.การใช้ Leverage ต้องบริหารเงินทุนให้ดี เพราะการบริหารความเสี่ยงและเงินทุน จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถอยู่รอดจากการเทรดในตลาด Forex ได้ในระยะยาว หากเทรดเดอร์บริหารเงินทุนไม่ดี และเลือกใช้ Leverage ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการล้างพอร์ต เพราะเงินทุนในพอร์ตไม่พอ ไม่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ได้นั่นเอง
3.ใช้ Leverage ตามความเสี่ยงที่รับได้ การเทรดด้วยเงินทุนตัวเอง 100% เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการมีความเสี่ยงจากการใช้ Leverage แต่ข้อเสีย คือ ต้องใช้เงินจำนวนมาก ในการซื้อขาย ซึ่งสินทรัพย์ในตลาดฟอเร็กซ์มีขนาดการลงทุนที่ใหญ่มาก หากไม่ใช้ Leverage เลย ต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล แต่ต้องไม่ลืมว่า การใช้ Leverage สูงมากเกินไป ย่อมมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วยครับ
1.สามารถซื้อขายในตลาด Forex ที่มีปริมาณมากกว่าเงินทุนของเทรดเดอร์เอง
2.สามารถใช้ได้ฟรี ตามเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์
3.ช่วยเพิ่มกำไรในการเทรดในกรณีราคาเคลื่อนไหวถูกทางตามที่คาดไว้ หากเพิ่มปริมาณการเทรดเป็น 10 เท่า โดยใช้ leverage ก็จะเพิ่มผลกำไรของเป็น 10 เท่าเช่นกัน
4.หากออกออเดอร์ปริมาณการเทรดที่เท่ากันสำหรับสินทรัพย์เดียวกัน และราคาเคลื่อนที่ผิดทาง การเทรดที่ไม่มี Leverage พอร์ตจะแตกเร็วกว่าการเทรดด้วย Leverage
1.หากเทรดผิดทางไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ก็ขาดทุนจำนวนมาก
2.การเทรดโดยใช้ Leverage จำเป็นต้องควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะเสี่ยงต่อการขาดทุนง่าย
จากบทความข้างต้นจะเห็นได้ว่า Leverage เป็นเหมือนดาบสองคม มันทำให้เราได้กำไรอย่างมหาศาล แต่ก็ทำให้เราพอร์ตแตกได้เช่นกัน เนื่องจากทำให้ความเสี่ยงในการเทรดสูงขึ้น (กรณีเปิดออเดอร์ในขนาดที่ใหญ่ขึ้น) ดังนั้น เราจำเป็นต้องวางแผนการบริหารความเสี่ยงในการเทรดอย่างรอบคอบ โดยทั่วไปนักลงทุนมืออาชีพส่วนใหญ่ตั้งค่าความเสี่ยงในการเทรดแต่ละครั้งเพียง 1-2% ของเงินทุนเท่านั้น สุดท้ายนี้ การลงทุนทุกรูปแบบล้วนมีความเสี่ยง อยากให้ทุกคนศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์นั้นให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน และหากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตามความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการลงทุนได้ที่เว็บไซต์ ThaiForexReview ได้เลยครับ
______________________________
สุดท้ายนี้ การลงทุนทุกรูปแบบล้วนมีความเสี่ยง อยากให้คุณศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์นั้นให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน และหากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตาม ThaiForexReview
ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนได้ที่ : News
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ : Blogs
รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers
Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด
การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex
ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น
ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ
การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex
หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน
ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล
ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด