เทียบให้ชัด! สัญญา Future และ Forward ต่างกันอย่างไร?


สัญญา Future และ Forward ต่างกันอย่างไร?

นักลงทุนหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “Future (ฟิวเจอร์) และ Forward (ฟอร์เวิร์ด)” กันมาบ้างแล้ว โดยสัญญาดังกล่าว คือ การซื้อขายล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ สามารถทำการซื้อขายได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงจึงเหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบการเก็งกำไรเป็นอย่างมากครับ ในบทความนี้ ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับสัญญา Future และ Forward ว่าต่างกันอย่างไร? เพื่อให้ทุกท่านสามารถเข้าใจสัญญา Future และ Forward ได้ดียิ่งขึ้นครับ

 

สัญญา Future คืออะไร? 

สัญญา Future คือ สัญญาการซื้อขายล่วงหน้าที่ผู้ซื้อและผู้ขายได้ทำการตกลงซื้อขายสินค้าอ้างอิงกัน โดยสัญญาจะกำหนดราคาตั้งแต่วันนี้ แต่จะส่งมอบสินค้าและชำระเงินในอนาคต ซึ่งจุดเด่นของ Future คือ ผู้ทำสัญญาไม่จำเป็นต้องถือสัญญาให้ครบกำหนดก็สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ผ่านตลาด TFEX 

เรียกได้ว่า สัญญาฟิวเจอร์เป็นหนึ่งในตัวเลือกด้านการลงทุนที่จะช่วยให้เทรดเดอร์และนักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงที่จะขาดทุน เมื่อราคาสินทรัพย์ที่มีการปรับขึ้นลงเรื่อย ๆ ในอนาคตนั่นเองครับ

 

การเทรด Future คืออะไร?

 

การเทรด Future คือ

การเทรด Future คือ การเทรดที่เน้น “การเก็งกำไร” จากราคาในอนาคตของซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งการเทรด Future นี้ สามารถเก็งกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง อีกทั้ง นักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนที่สูงเกินไปก็สามารถทำการซื้อขายได้ เพราะการลงทุนนี้ จะมีการใช้ Leverage และมีการวางเงินหลักประกัน (Margin) โดยที่ไม่ต้องวางเงินลงทุนแบบเต็มจำนวน ทำให้เพิ่มโอกาสในการทำกำไร หากเทรดเดอร์สามารถจับจังหวะการลงทุนได้อย่างถูกต้องครับ

 

การสร้างสถานะการเทรด Future เป็นอย่างไร?

สำหรับสถานะการเทรด Future นั้น ขั้นตอนแรก คือ เทรดเดอร์ต้องเปิดบัญชีการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการก่อน หลังจากนั้น ต้องทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่โบรกเกอร์เปิดให้ใช้บริการจึงจะสามารถเข้าทำการซื้อขายได้ ซึ่งการสร้างสถานะการเทรด Future มี 2 สถานะ ได้แก่ Long Position และ Short Position โดยสถานะดังกล่าวมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 

1. Long Position 

Long Position คือ สถานะการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงตามระยะเวลาและราคาที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่ง Long Position ควรเปิดก็ต่อเมื่อเทรดเดอร์คาดการณ์ไว้ว่า ราคาสินทรัพย์จะมีการปรับตัวขึ้นในอนาคต หากราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวขึ้นจริง เทรดเดอร์ก็จะได้กำไร แต่ในทางตรงข้ามกัน หากราคาสินทรัพย์ปรับตัวลง เทรดเดอร์ก็จะขาดทุน

2. Short Position 

Short Position คือ สถานะการขายสินทรัพย์อ้างอิงตามระยะเวลาและราคาที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่ง Short Position ควรเปิดก็ต่อเมื่อเทรดเดอร์คาดการณ์ไว้ว่า ราคาสินทรัพย์จะมีการปรับตัวลงในอนาคต หากราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวลงจริง เทรดเดอร์ก็จะได้กำไร แต่ในทางตรงข้ามกัน หากราคาสินทรัพย์ปรับตัวขึ้น เทรดเดอร์ก็จะขาดทุน

นอกจากนี้ จุดเด่นของผู้ซื้อสัญญาฟิวเจอร์ คือ ไม่จำเป็นต้องถือสัญญาซื้อขายเอาไว้จนครบตามระยะเวลาที่กำหนดก็สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า

 

องค์ประกอบสำคัญของสัญญา Future มีอะไรบ้าง?

1. สินทรัพย์อ้างอิง

สินทรัพย์อ้างอิงในสัญญา Future นั้น มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทองคำ, น้ำมัน, โลหะเงิน, ทองแดง, ดัชนี, หุ้น, พันธบัตร และเงินตราต่างประเทศ เป็นต้น

2. ขนาดของมูลค่าสัญญา

ขนาดของมูลค่าสัญญา คือ จำนวนและมูลค่าของสินทรัพย์อ้างอิงที่ต้องส่งมอบต่อ 1 สัญญา ซึ่งปกติแล้ว การกำหนดขนาดต่อ 1 สัญญาจะไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะผู้ซื้อและผู้ขายต้องใช้เงินทุนจำนวนที่มากขึ้น ทำให้อาจจะไม่สะดวกต่อการลงทุนได้

3. การส่งมอบ

การซื้อขาย Future ส่วนใหญ่จะไม่มีการส่งมอบสินทรัพย์อ้างอิง เพราะผู้ซื้อและผู้ขายจะทำการลบล้างสถานะก่อนครบกำหนดวันส่งมอบ อีกทั้ง ยังมีการประเมินกำไรขาดทุนให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจะลบล้างสถานะ นอกจากนี้ สถานที่การส่งมอบมักถูกกำหนดโดยตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า โดยเฉพาะในกรณีของสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะระยะทางในการส่งมอบมักมีผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้านั่นเอง

4. เดือนที่ส่งมอบ

สำหรับเดือนที่ส่งมอบจะถูกกำหนดโดยตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าเช่นกัน โดยจะต้องระบุวันและเดือนให้ชัดเจน ซึ่งเดือนในการส่งมอบของแต่ละสัญญาจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับตลาด Future แต่ละแห่ง

5. การกำหนดราคา 

การกำหนดราคาจะขึ้นอยู่กับความสะดวกต่อการซื้อขายในตลาด Future แต่ละแห่ง

6. การจำกัดการเคลื่อนไหวของราคา

การจำกัดการเคลื่อนไหวของราคา คือ ขอบเขตสูงสุดของการเคลื่อนไหวของราคาที่ตลาดฟิวเจอร์อนุญาตให้เปิดทำการซื้อขาย ซึ่งราคาในหนึ่งวันจะถูกกำหนดไว้ว่า อยู่ในช่วง +- ได้ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของราคาปิดในวันก่อนหน้า ซึ่งการกำหนดขอบเขตนี้ เพื่อไม่ให้ราคาจากการเก็งกำไรเกิดการแกว่งตัวมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม ช่วงจำกัดการเคลื่อนไหวของราคาก็เป็นอุปสรรคในการลงทุนเช่นกัน เพราะอาจจะทำให้เทรดเดอร์ไม่ได้ราคาที่เคลื่อนไหวตามสภาพจริงของตลาดนั่นเองครับ

7. การจำกัดจำนวนการถือครองสัญญา

การจำกัดจำนวนการถือครองสัญญา คือ จำนวนจำกัดสูงสุดของสัญญาที่นักลงทุนสามารถถือครองได้ครับ ยกตัวอย่างเช่น สัญญา USD Futures มีจำนวนการถือครองสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ไม่เกิน 10,000 สัญญา

 

กลยุทธ์การลงทุนใน Future มีอะไรบ้าง?

1. กลยุทธ์การเก็งกำไร (Speculation)

กลยุทธ์การเก็งกำไร (Speculation) คือ การซื้อขายสัญญา Future เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งนักลงทุนต้องยอมรับการขาดทุนที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

2. กลยุทธ์การถัวเฉลี่ย (Hedging) 

กลยุทธ์การถัวเฉลี่ย (Hedging) คือ การซื้อขายสัญญา Future โดยการลงทุนในแต่ละเดือนด้วยจำนวนเงินที่สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต 

3. กลยุทธ์การค้าทำกำไร (Arbitrage)

กลยุทธ์การค้าทำกำไร (Arbitrage) คือ การซื้อขายสัญญา Future เพื่อทำกำไรจากผลต่างของราคาใน 2 ตลาด โดยเป็นการซื้อสินค้าประเภทเดียวกันจากตลาดที่ถูกกว่า มาขายในตลาดที่แพงกว่านั่นเอง

 

ประโยชน์ของสัญญา Future

  • สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง
  • ใช้เงินทุนต่ำ
  • มีสภาพคล่องสูง
  • สามารถป้องกันความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคตได้

 

ข้อจำกัดของสัญญา Future

  • มีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมสูง
  • จำกัดการเลือกสินทรัพย์อ้างอิงในแต่ละสัญญา ทำให้เทรดเดอร์ไม่สามารถกำหนดขนาด, ราคา และค่าธรรมเนียมของสัญญาได้

 

สัญญา Forward คืออะไร?

 

สัญญา Forward คืออะไร

สัญญา Forward คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งลักษณะสัญญามีความคล้ายคลึงกับสัญญา Future คือ ผู้ซื้อและผู้ขายจะทำการตกลงซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิง เพื่อส่งมอบสัญญาให้กันในอนาคต แต่ข้อแตกต่างของสัญญา Forward คือ การซื้อขายนอกตลาดที่ไม่ได้มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการนั่นเองครับ

 

การเทรด Forward เป็นอย่างไร?

การเทรด Forward จะเกิดขึ้นเป็นการส่วนตัวระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งปกติแล้ว จะไม่ทำการซื้อขายบนแพลตฟอร์มซื้อขาย เพราะการซื้อขายนี้ จะมาในรูปแบบ Over The Counter (OTC) ซึ่งทำให้คู่สัญญาสามารถปรับแต่งสัญญาเมื่อใดก็ได้ นอกจากนี้ สัญญาฟอร์เวิร์ดก็ไม่ได้มีหน่วยกลางเข้ามากำกับดูแล ทำให้สัญญา Forward เป็นส่วนตัวมากกว่า Future แต่ก็มีจำนวนการซื้อขายที่น้อยกว่าเช่นกัน

 

ประโยชน์ของสัญญา Forward

  • สัญญาเป็นส่วนตัว เพราะสัญญาเป็นรูปแบบ OTC 
  • ไม่ต้องวางเงินในการทำหลักประกัน
  • สามารถปรับแต่งสัญญาเมื่อใดก็ได้

 

ข้อจำกัดของสัญญา Forward

  • สัญญา Forward มีความเสี่ยงสูง เพราะคู่สัญญาอาจจะทำการผิดสัญญา
  • สภาพคล่องต่ำ เพราะจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายมีน้อยกว่าสัญญาอื่น ทำให้การลบล้างสถานะก่อนครบกำหนดสัญญาเป็นไปได้ยาก

 

สัญญา Forward กับ Future ต่างกันอย่างไร?

 

สัญญา Forward กับ Future ต่างกันอย่างไร

แม้ว่าสัญญา Forward กับ Future จะเป็นสัญญาที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันในเวลาปัจจุบัน ซึ่งมีการชำระเงินและส่งมอบสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคตเหมือนกัน แต่สัญญาทั้ง 2 รูปแบบนี้ ก็มีความแตกต่างกันครับ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

1. มาตรฐานของสัญญา 

สัญญา Future จะเป็นสัญญาที่มีมาตรฐานมากกว่า Forward โดยสัญญา Future จะมีข้อบังคับมาตรฐาน คือ ต้องระบุวันที่และสถานที่ลงในสัญญาด้วย ทำให้การซื้อขายสามารถเปลี่ยนมือหรือลบล้างสถานะได้ง่ายก่อนวันครบกำหนดสัญญา ซึ่งจะตรงกันข้ามกับสัญญา Forward ที่ไม่มีการบังคับเรื่องมาตรฐานและเนื้อหาในสัญญาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้ Forward มีความเสี่ยงมากกว่า

2. สภาพคล่อง

สัญญา Future มีสภาพคล่องสูงกว่าสัญญา Forward เพราะมีตลาดรองในการซื้อขาย (Future Exchange) ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ง่าย ก่อให้เกิดสภาพคล่องในตลาดได้ดีกว่า แต่สัญญา Forward ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

3. Default Risk

Default Risk คือ ความเสี่ยงในการบิดพลิ้วสัญญาในการชำระเงินหรือส่งมอบสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต ซึ่ง Future มีความเสี่ยง Default Risk น้อยกว่า Forward เพราะ Future มีการทำสัญญากับหน่วยงานหักบัญชีของตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายล่วงหน้า (Future Exchange’s Clearinghouse) แต่สัญญา Forward ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันเอง

4. การส่งมอบสินทรัพย์อ้างอิง

ปกติแล้วตลาด Future จะไม่ค่อยส่งมอบจริง โดยจะนิยมลบล้างสถานะซื้อขายก่อนครบกำหนดสัญญา ซึ่งจะแตกต่างจากสัญญา Forward ที่จะมีการส่งมอบและชำระราคาตามสัญญาเท่านั้น

 

ข้อควรรู้🏴󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) คือ สินทรัพย์ที่ถูกกำหนดให้มีการซื้อขายภายใต้ข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้าของตลาดอนุพันธ์ ซึ่งสินค้าที่ซื้อขายในตลาดอนุพันธ์สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ Future, Option, Forward และ Swap นั่นเอง

 


บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม : 

ตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) คืออะไร? เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของนักลงทุนจริงหรือ?

Gold Spot กับ Gold Future แตกต่างกันอย่างไร ? เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ในที่เดียว

Hedging คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรในการเทรด Forex

 


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสัญญา Future และ Forward

Q. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า คืออะไร?

A. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า คือ สัญญาการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงที่มีการตกลงราคาไว้ ณ ปัจจุบัน แต่จะมีการส่งมอบและชำระเงินในอนาคต ซึ่งสัญญาซื้อขายลักษณะนี้จะมีวันที่, เวลา และสถานที่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

Q. สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีกี่ประเภท?

A. สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามี 4 ประเภท ได้แก่ Future, Option, Forward และ Swap 

Q. การเทรด Future คืออะไร?

A. การเทรด Future คือ การเทรดที่เน้นเก็งกำไรจากราคาซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต (Underlying Asset) นั่นเอง

Q. สัญญา Forward คืออะไร? 

A. สัญญา Forward คือ สัญญาการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงล่วงหน้าแบบ OTC โดยที่ผู้ซื้อและผู้ขายจะกำหนดราคาตั้งแต่วันนี้ แต่จะมีการส่งมอบและชำระเงินในอนาคต

 

สรุป

โดยสรุปแล้ว สัญญา Future และ Forward เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ผู้ทำสัญญามีการตกลงราคาในตอนนี้ แต่การส่งมอบและชำระเงินจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งสัญญาลักษณะนี้จะเป็นการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) หรือสินทรัพย์ที่ไม่ได้มีมูลค่าในตัวมันเอง แต่มูลค่าของมันจะเคลื่อนไหวไปตามทิศทางของสินทรัพย์ที่ถูกอ้างอิงนั่นเองครับ

สำหรับจุดเด่นของสัญญา Future และ Forward คือ สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้ง ยังสามารถป้องกันความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคตได้ครับ ทั้งนี้ สัญญาทั้งสองแบบนี้ก็มีความแตกต่างกัน โดยสัญญา Future จะมีสภาพคล่องสูงกว่าสัญญา Forward เพราะการเทรด Forward อยู่ในรูปแบบของ OTC ซึ่งเป็นการซื้อขายกันเอง ทั้งนี้ การลงทุนทั้ง 2 รูปแบบนี้ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นแล้ว นักลงทุนควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสัญญาที่คุณให้ความสนใจก่อนลงทุนทุกครั้ง เพราะมิฉะนั้น คุณอาจจะสูญเสียเงินทั้งหมดได้ครับ

 

Sources : SET และศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย


 

⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

 

หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม

สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com

ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview

ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis

อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers

investing

แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ

tfn
ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

ความรู้ Forex

Forex

Gold

Beginner

Investing

ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

© Copyright Thaiforexreview 2023. All rights reserved