อินดิเคเตอร์ Forex คืออะไร? ตัวช่วยเทรดที่เป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์!


อินดิเคเตอร์ Forex คืออะไร ? ตัวช่วยเทรดที่เป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์!

อินดิเคเตอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือคู่ใจเทรดเดอร์หลาย ๆ คน เพราะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนของเทรดเดอร์ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น ในวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Indicator ว่า แท้จริงแล้วมันคืออะไร? มีประโยชน์และแนวทางในการเลือกใช้อย่างไรกับการเทรดในตลาด Forex ติดตามกันได้ในบทความนี้กันครับ

อินดิเคเตอร์ Forex คืออะไร?

Indicator หรือ อินดิเคเตอร์ คือ เครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex โดยผ่านการคำนวณตัวเลขของราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด หรือปริมาณการซื้อขาย แล้วแสดงผลออกมาในรูปแบบของกราฟ เพื่อให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์แนวโน้มทิศทางราคาและวางแผนเพื่อหาจุดเข้าซื้อหรือจุดปิดออเดอร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้แก่เทรดเดอร์ครับ

การเทรด Forex ด้วยอินดิเคเตอร์เป็นหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งในตลาด Forex นี้ ยังมีเทคนิคการเทรดอีกมากมาย เพื่อจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์ราคา หากเทรดเดอร์ต้องการยกระดับการเทรดไปอีกขั้น สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ การวิเคราะห์ทางเทคนิค

 

 

ทำไมต้องใช้อินดิเคเตอร์ Forex ควบคู่กับการเทรด?

เนื่องจาก Indicator สามารถช่วยให้นักลงทุนวิเคราะห์แนวโน้มของทิศทางราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังสามารถคาดการณ์จุดเข้าซื้อหรือจุดปิดออเดอร์เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดและลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้

 

ประโยชน์ของอินดิเคเตอร์ Forex

  • สามารถช่วยวิเคราะห์จุดเข้าซื้อขาย

อินดิเคเตอร์สามารถช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ทิศทางของราคาและบอกจุดซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ช่วยลดความเสี่ยงในการเทรด Forex

เนื่องจากตลาด Forex ถือเป็นตลาดที่มีความผันผวนของราคาสูง ทำให้ตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น การใช้อินดิเคเตอร์เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ทิศทางของราคา จะช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุนได้นั่นเองครับ

  • สามารถบอกทิศทางในการเทรดได้

สามารถบอกทิศทางของราคาในตลาด ณ ช่วงเวลานั้นได้ว่า ราคาอยู่ในทิศทางใดและเป็นแนวโน้มอะไร เปรียบเสมือนตัวช่วยกรองว่า ในช่วงตลาดนั้น ควรที่จะ Buy หรือ Sell นั่นเอง

  • ช่วยบอกจุด Stop Loss และ Take Profit 

อินดิเคเตอร์สามารถวิเคราะห์แนวรับ-แนวต้านของราคาได้ ซึ่งแนวรับ-แนวต้านมีส่วนช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตั้ง Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในตลาดขาขึ้น-ลง เพื่อเป็นการทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงจากการเทรดในตลาด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

เลือกอินดิเคเตอร์ Forex ยังไงให้เหมาะกับเรา?

 

  • ศึกษาอินดิเคเตอร์แต่ละชนิดให้ละเอียด จากนั้นเลือก Indicator ที่ต้องการใช้ให้เหมาะกับประเภทหรือสินทรัพย์การลงทุน หรือสไตล์การเทรดของแต่ละคน
  • เลือกใช้อินดิเคเตอร์ให้ตรงกับประเภทการใช้งาน เพราะจะทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ไม่ควรเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความสับสนในเชิงเทคนิคและการใช้งาน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของเทรดเดอร์แต่ละคนด้วยเช่นกันครับ

 

ประเภทของอินดิเคเตอร์ Forex ที่เทรดเดอร์นิยมใช้คู่กับการเทรด Forex

อินดิเคเตอร์แต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อใช้วิเคราะห์ตลาดในแง่มุมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการระบุแนวโน้มหลักของราคา, การวัดความแรงของการแกว่งตัว (Momentum), การประเมินความผันผวน (Volatility) ไปจนถึงการหาสัญญาณเตือนการกลับตัว การทำความเข้าใจเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งประเภทของอินดิเคเตอร์ Forex สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • อินดิเคเตอร์ Forex ประเภท Trend (อินดิเคเตอร์บอกแนวโน้ม)

อินดิเคเตอร์ Forex ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อระบุทิศทางหลักของตลาดว่า กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend), ขาลง (Downtrend) หรือไม่มีทิศทางที่ชัดเจน (Sideway) หัวใจสำคัญ คือ การช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเทรดไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและหลีกเลี่ยงการเทรดสวนกระแสหลักของตลาด

  • อินดิเคเตอร์ Forex ประเภท Volume (อินดิเคเตอร์วัดปริมาณการซื้อขาย)

อินดิเคเตอร์ประเภทนี้ใช้วัดปริมาณหรือ "แรงผลักดัน" ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคา ปริมาณการซื้อขายที่สูง จะช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มนั้นอาจไม่ยั่งยืน อินดิเคเตอร์กลุ่มนี้ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดได้

  • อินดิเคเตอร์ Forex ประเภท Volatility (อินดิเคเตอร์วัดความผันผวน)

อินดิเคเตอร์ประเภทนี้ ไม่ได้บอกทิศทางของราคา แต่จะใช้วัด "ขนาด" หรือ "อัตรา" การเปลี่ยนแปลงของราคา ช่วยให้เทรดเดอร์ประเมินความเสี่ยงของตลาดในขณะนั้นได้ หากมีความผันผวนสูง นั่นหมายถึง ราคามีการแกว่งตัวในกรอบที่กว้าง ซึ่งอาจสร้างโอกาสในการทำกำไรสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน อินดิเคเตอร์กลุ่มนี้สำคัญมากในการวางแผนจุดตัดขาดทุน (Stop Loss)

  • อินดิเคเตอร์ Forex ประเภท Momentum (อินดิเคเตอร์วัดการแกว่งตัวของราคา)

อินดิเคเตอร์ประเภทนี้ใช้วัด "ความเร็ว" และ "ความแรง" (โมเมนตัม) ของการเปลี่ยนแปลงราคา ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยทำหน้าที่เป็นเหมือน "มาตรวัดความเร่ง" ของรถยนต์ ช่วยบ่งชี้ว่า แนวโน้มปัจจุบันกำลังแข็งแกร่งขึ้นหรืออ่อนกำลังลง เป็นอินดิเคเตอร์ที่มักจะให้สัญญาณเตือนการกลับตัวของราคาได้เร็วกว่าอินดิเคเตอร์ประเภทอื่น

 

อินดิเคเตอร์ Forex ยอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์

สำหรับอินดิเคเตอร์ Forex ที่เหล่าเทรดเดอร์เลือกใช้นั้นมีอยู่หลายตัวมากครับ ในวันนี้ทีมงานจะพาเทรดเดอร์มารู้จักกับอินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมทั้งหมด 4 อินดิเคเตอร์ ดังนี้

  • Moving Average (MA)
  • Moving Average Convergence Divergence (MACD)
  • Bollinger Bands (BB)
  • Relative Strength Index (RSI)

 

1. Moving Average (MA)

 

Indicator Moving Average (MA) คืออะไร

Moving Average (MA) เป็นอินดิเคเตอร์ Forex ประเภทแนวโน้ม (Trend) ที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในตลาด Forex และตลาดหุ้น Moving Average เป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่บ่งบอกถึงแนวโน้มราคาของสินทรัพย์ในตลาด ซึ่ง อินดิเคเตอร์ Forex ชนิดนี้สามารถหาแนวรับ-แนวต้านของราคาได้เช่นกัน โดยทั่วไปจะใช้ข้อมูลราคาปิดย้อนหลังมาคำนวณและแปลงมาเป็นรูปของ “เส้นค่าเฉลี่ย” ครับ

ประเภทของ Indicator Moving Average (MA)

สำหรับประเภทของ Moving Average ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้กันจะมีทั้งหมด 2 ประเภทดังนี้ครับ

Exponential Moving Average (EMA) 

เป็นเส้นคาดการณ์แนวโน้มราคาโดยนำเอาราคาปิดในแต่ละวันมาหาค่าเฉลี่ย โดยให้ค่าน้ำหนักไปอยู่กับราคาปิดในวันล่าสุด ซึ่งทำให้ Indicator EMA สามารถให้สัญญาณแนวโน้มของราคาได้เร็วกว่า แต่ก็อาจเกิดสัญญาณหลอกที่มากกว่าครับ

Simple Moving Average (SMA)

เป็นเส้นคาดการณ์แนวโน้มราคาโดยนำเอาราคาปิดในแต่ละวันมาหาค่าเฉลี่ยเช่นเดียวกันกับ EMA และให้ค่าน้ำหนักของราคาปิดในแต่ละวัน “เท่า ๆ กัน” ซึ่งทำให้ Indicator SMA เกิดสัญญาณหลอกน้อยกว่า แต่ตอบสนองต่อสัญญาณแนวโน้มของราคาช้ากว่า EMA ครับ

ข้อแตกต่างและจุดควรระวังของการใช้ Indicator EMA และ SMA 

ข้อแตกต่างระหว่าง Indicator EMA และ SMA

เนื่องจาก Indicator EMA และ Indicator SMA มีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ

Exponential Moving Average (EMA)

ให้สัญญาณแนวโน้มทิศทางราคาที่ไว แต่อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ง่ายกว่า

Simple Moving Average (SMA) 

ให้สัญญาณแนวโน้มทิศทางราคาช้ากว่า แต่แม่นยำและโอกาสเกิดสัญญาณหลอกน้อยกว่า  

 

ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องเลือก Indicator ให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของตนเอง เพื่อเพิ่มความสามารถของตัว Indicator และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดให้ได้มากที่สุดครับ 

 

 

2. Moving Average Convergence Divergence (MACD)

 

Indicator Moving Average Convergence Divergence (MACD) คืออะไร

Moving Average Convergence Divergence (MACD) เป็นอินดิเคเตอร์ Forex ประเภทการแกว่งตัวของราคา (Momentum) ที่ช่วยวัดแนวโน้มทิศทางราคา โดยการนำเอาค่า EMA จำนวน 2 เส้นมาวัดความเปลี่ยนแปลงของราคาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นทิศทางราคาและแนวโน้มการแกว่งตัวของราคาได้ชัดเจนมากขึ้นครับ ซึ่ง MACD ที่ใช้กันบ่อยจะมีดังนี้

  • MACD คือ ตัวเลขของ EMA(12) ลบกับ EMA (26)
  • Signal Line คือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ EMA 9 วัน ของค่า MACD
  • MACD Histogram คือ ส่วนต่างระหว่าง MACD และ Signal Line 

 

3. Bollinger Bands (BB)

 

Indicator Bollinger Band (BB) คืออะไร

Bollinger Bands (BB) เป็นอินดิเคเตอร์ Forex ประเภทความผันผวน (Volatility) ที่ใช้วัดสภาวะของตลาดที่มีแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงราคา โดยอินดิเคเตอร์ Forex ชนิดนี้มีหลักการทำงานโดยการใช้ Standard Deviation หรือ "SD" ซึ่งจะสร้างกรอบให้ราคาทั้งหมด และเส้นเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการวิเคราะห์สภาวะของตลาดและพฤติกรรมของราคาที่มีความผันผวน 

ส่วนประกอบของ Bollinger Bands

Upper Band

คำนวณจาก SMA(20) + [2 × SD(20)]

Middle Band

คำนวณจาก SMA(20) 

Lower Band

คำนวณจาก SMA(20) - [2 × SD(20)]

 

ซึ่งแต่ละส่วนประกอบจะช่วยให้เทรดเดอร์ทราบและวิเคราะห์แนวโน้มของราคา แนวรับ-แนวต้าน การเกิด Breakout หรือแม้แต่ระดับความผันผวนของราคาครับ

การตีความของ Bollinger Bands

อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands จะมีการบีบตัวและขยายตัวตามความผันผวนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาของตลาด ซึ่งสามารถตีความหมายได้ ดังนี้

  • Bollinger Bands ขยายตัวกว้าง : ตลาดมีความผันผวนสูงและมักจะเป็นแนวโน้มที่ชัดเจน
  • Bollinger Bands บีบตัวแคบ : ตลาดมีความผันผวนต่ำและมักจะเป็นแนวโน้ม Sideway

นอกจากนี้ อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands ยังสามารถบอกสภาวะ Overbought/ Oversold ได้จากการที่ราคาขึ้นหรือลงไปแตะที่เส้นขอบบนหรือขอบล่างของอินดิเคเตอร์นั่นเองครับ

 

4. Relative Strength Index (RSI)

 

Indicator Relative Strength Index (RSI) คืออะไร

Relative Strength Index (RSI) เป็นอินดิเคเตอร์ Forex ประเภทการแกว่งตัวของราคา (Momentum) ที่ใช้วัดโมเมนตัมการเปลี่ยนแปลงของราคาเพื่อดูสภาวะการซื้อที่มากเกินไป (Overbought) และการขายที่มากเกินไป (Oversold) โดยคำนวณจากราคาสินทรัพย์ย้อนหลัง 14 วัน และแสดงผลออกมาเป็นตัวเลขตั้งแต่ 0-100 ซึ่ง อินดิเคเตอร์ RSI จะช่วยบอกสัญญาณในการเกิด Breakout, บอกแนวโน้มการกลับตัวหรือแม้แต่จุดเข้าซื้อตามสัญญาณของ RSI ครับ

วิธีการอ่านค่า Indicator Relative Strength Index (RSI)

  • หาก RSI มีค่าต่ำกว่า 30 แสดงว่า สินทรัพย์นั้นเกิด “ภาวะขายมากเกินไป” หรือ “Oversold”

  • หาก RSI มีค่าสูงกว่า 70 แสดงว่า สินทรัพย์นั้นเกิด “ภาวะซื้อมากเกินไป” หรือ “Overbought”

นอกจากการอ่านค่า Overbought และ Oversold แล้ว RSI ยังสามารถที่จะใช้ดูสัญญาณ Divergence ได้อีกเช่นกันครับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Indicator

อินดิเคเตอร์ MACD และ RSI ต่างกันอย่างไร?

MACD เป็นอินดิเคเตอร์ที่ช่วยวัดแนวโน้มทิศทางราคา โดยคำนวณจาก EMA 2 เส้น (โดยทั่วไป 12 และ 26 วัน) ความเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะสั้นและระยะยาว ส่วน RSI เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดโมเมนตัมการเปลี่ยนแปลงของราคาเพื่อดูสภาวะการซื้อที่มากเกินไป (Overbought) และการขายที่มากเกินไป (Oversold)

อินดิเคเตอร์ที่เทรดเดอร์นิยมใช้ในตลาด Forex มีอะไรบ้าง?

  • Moving Average (MA)
  • Moving Average Convergence Divergence (MACD)
  • Bollinger Bands (BB)
  • Relative Strength Index (RSI)

Oversold คืออะไร?

Oversold คือ สภาวะที่มีการขายมากเกินไป โดยมีสัญญาณ RSI ที่น้อยกว่า 30 (RSI < 30) หมายความว่า ราคาสินทรัพย์ลดลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จนโมเมนตัมการขายมีมากเกินไป และมีแนวโน้มที่จะเกิดสัญญาณกลับตัวครับ

เมื่อ RSI < 30 สิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องพิจารณา คือ ตลาดสินทรัพย์เกิดสภาวะการขายที่มากเกินไป เทรดเดอร์จึงไม่ควร “ขาย” สินทรัพย์ในช่วงเวลานี้เพราะอาจขายได้ในราคาที่ไม่สูงและพิจารณาหาจุด “เข้าซื้อ” แทนครับ

อินดิเคเตอร์อะไรที่ให้สัญญาณแม่นยำที่สุดในตลาด Forex?

การวิเคราะห์หรือคาดการณ์ตลาด Forex ไม่สามารถทำได้อย่างแม่นยำ 100% ดังนั้น คำตอบของคำถามนี้ คือ ไม่มีอินดิเคเตอร์ใดในตลาด Forex ที่แม่นยำที่สุด ทั้งนี้ ความแม่นยำในการหาจุดเข้า เทรดเดอร์จะต้องเข้าใจโครงสร้างของตลาดและหลักการทำงานของอินดิเคเตอร์ก่อนว่า เหมาะกับช่วงตลาดแบบไหน จึงจะสามารถหาจุดเข้าที่ดีที่สุดได้นั่นเองครับ

อินดิเคเตอร์ Forex อะไรบ้าง? ที่สามารถบอกจุดกลับตัวได้อย่างแม่นยำ?

อินดิเคเตอร์ที่สามารถให้สัญญาณการกลับตัวได้ ส่วนมากจะเป็นอินดิเคเตอร์ประเภท Momentum ที่สามารถให้สัญญาณ Divergence และสัญญาณ Overbought/ Oversold เช่น RSI, MACD หรือ Stochastic Oscillator เป็นต้น


🔎 บทความที่เกี่ยวข้อง


สรุปเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์ Forex

อินดิเคเตอร์ (Indicator) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีส่วนช่วยให้เทรดเดอร์ Forex สามารถเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม อินดิเคเตอร์เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ราคาเท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้เทรดได้กำไรทุกครั้ง เพราะตลาด Forex มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น เทรดเดอร์ควรศึกษาอินดิเคเตอร์ที่ใช้อย่างละเอียดและศึกษาตลาด Forex ให้เข้าใจ เพื่อให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ


 

⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

 

หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม

สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com

ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview

ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis

อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers

forex

แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ

tfn
ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

ความรู้ Forex

Forex

Gold

Beginner

Investing

ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

© Copyright Thaiforexreview 2023. All rights reserved