Indicator คืออะไร ? ตัวช่วยเทรด Forex ที่เป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์!


Indicator คืออะไร ? ตัวช่วยเทรด Forex ที่เป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์!

Indicator ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือคู่ใจเทรดเดอร์ เพราะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนของเทรดเดอร์ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นในวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Indicator ว่า แท้จริงแล้วมันคืออะไร? มีประโยชน์และแนวทางในการเลือกใช้อย่างไรกับการเทรดในตลาด Forex ติดตามได้ในบทความนี้กันครับ

Indicator คืออะไร ?

Indicator หรือ อินดิเคเตอร์ คือ เครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex โดยผ่านการคำนวณตัวเลขของราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด, ราคาปิด หรือปริมาณการซื้อขายแล้วแสดงผลออกมาในรูปแบบของกราฟ เพื่อให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์แนวโน้มทิศทางราคาและวางแผนเพื่อหาจุดเข้าซื้อหรือจุดปิดออเดอร์ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้แก่เทรดเดอร์ครับ

ประเภทของ Indicator ที่เทรดเดอร์นิยมใช้คู่กับการเทรด Forex

 

Trend Indicators

เป็นอินดิเคเตอร์ที่ช่วยบอกแนวโน้มและทิศทางของราคาสินทรัพย์ทั้งในตลาดขาขั้นและขาลง

Volume Indicators

เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการวัดปริมาณการซื้อขายของสินทรัพย์

Volatility Indicators

เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดความผันผวนของราคาสินทรัพย์ในตลาด

Momentum Indicators

เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดการแกว่งตัวของราคา ณ ช่วงเวลาที่เกิดภาวะ Oversold และ Overbought ของสินทรัพย์นั้น ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์แนวโน้มการกลับตัวและการเกิด Divergence

 

ทำไมต้องใช้ Indicator คู่กับการเทรด Forex

เนื่องจาก Indicator สามารถช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของทิศทางราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้เทรดเดอร์ยังสามารถคาดการณ์จุดเข้าซื้อหรือจุดปิดออเดอร์เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดและลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากขึ้น 

Indicator มีประโยชน์อะไรบ้าง ช่วยบอกอะไรกับเทรดเดอร์

สามารถบอกจุดซื้อขายได้อย่างแม่นยำ 

Indicator สามารถช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ทิศทางของราคาได้ ซึ่งทิศทางของราคาสามารถบอกจุดซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ พร้อมทั้งยังสามารถบอกจุดที่เราสามารถเปิด-ปิดคำสั่งซื้อที่ให้ผลตอบแทนสูงครับ

ช่วยลดความเสี่ยงในการเทรด Forex

เนื่องจากตลาด Forex ถือเป็นตลาดที่มีความผันผวนของราคาสูงทำให้ตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการใช้ Indicator เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ทิศทางของราคาจะช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุนและยังมีส่วนในการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้เช่นกันครับ 

สามารถบอกทิศทางของตลาดที่ปลอดภัยในการเทรดได้

สามารถบอกทิศทางของราคาในตลาด ณ ช่วงเวลานั้นว่า ตอนนี้ราคาจะไปอยู่ในทิศทางใดจึงจะปลอดภัยที่สุดสำหรับการเทรด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า นักเทรดนั้นใช้ Indicator ประเภทไหน เนื่องจาก Indicator สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่  

ประเภทของ Indicator ที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้ม

  • Indicator ที่ใช้ระบุทิศทางของแนวโน้ม (Trend) 

  • Indicator ที่ใช้วัดแรงเหวี่ยงหรืออัตราเร่งของราคา (Momentum)

  • Indicator  ที่ใช้วัดความผันผวน (Volatility)

  • Indicator ที่ใช้บอกปริมาณการซื้อขาย (Volume)

วัดความผันผวนของราคาช่วยบอกจุด Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างชัดเจน

Stop Loss หมายถึง จุดตัดขาดทุน ใช้เพื่อป้องกันการขาดทุนจากการเทรดเดอร์เมื่อราคาของสินทรัพย์ตกลงเกินกว่าที่เทรดเดอร์จะรับได้

Take Profit หมายถึง จุดตัดทำกำไร  เป็นจุดที่เทรดเดอร์กำหนดไว้เพื่อต้องการทำกำไร เมื่อราคามาถึงจุดที่กำหนดไว้จะเป็นการสั่งปิดออเดอร์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้พลาดโอกาสในการทำกำไร

ซึ่ง Indicator สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของทิศทางราคาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งมีส่วนช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตั้งคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในตลาดขาขึ้น-ลง เพื่อเป็นการทำกำไรและลดความเสี่ยงจากการเทรดในตลาด Forex ได้มากขึ้นครับ

เลือก Indicator ยังไงให้เหมาะกับเรา

  • ศึกษา Indicator แต่ละชนิดให้ละเอียดจากนั้นเลือก Indicator ที่ต้องการใช้ให้เหมาะกับประเภทหรือสินทรัพย์การลงทุนหรือสไตล์การเทรดของแต่ละคน
  • เลือกใช้ Indicator ให้ตรงกับประเภทการใช้งาน เพราะจะทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ไม่ควรเลือกใช้ Indicator ที่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความสับสนในเชิงเทคนิคและการใช้งาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของเทรดเดอร์แต่ละคนด้วยเช่นกันครับ

Indicator ยอดนิยมสำหรับนักเทรด Forex

สำหรับ Indicator ที่เหล่านักเทรด Forex เลือกใช้นั้นมีอยู่หลายตัวมากครับ ยกตัวอย่างเช่น  RSI, Stochastic Oscillator ฯลฯ ซึ่งผมขอยกตัวอย่าง Indicator ที่นักเทรด Forex ส่วนใหญ่ให้ความสนใจมาทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ 

  • Moving Average (MA)

  • Moving Average Convergence Divergence (MACD)

  • Bollinger Bands (BB)

  • Relative Strength Index (RSI)

Indicator Moving Average (MA)

 

Indicator Moving Average (MA) คืออะไร

Moving Average (MA) เป็นอินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในตลาด Forex และตลาดหุ้น Moving Average เป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่บ่งบอกถึงแนวโน้มราคาของสินทรัพย์ในตลาด ซึ่ง Indicator ชนิดนี้ยังช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้เป็นแนวรับ-แนวต้านของราคาได้เช่นกัน โดยการนำข้อมูลราคาปิดย้อนหลังมาคำนวณและแปลงมาเป็นรูปของ “เส้นค่าเฉลี่ย” ครับ

ประเภทของ Indicator Moving Average (MA)

สำหรับประเภทของ Moving Average ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้กันจะมีทั้งหมด 2 ประเภทดังนี้ครับ

Exponential Moving Average (EMA) 

เป็นเส้นคาดการณ์แนวโน้มราคาโดยนำเอาราคาปิดในแต่ละวันมาหาค่าเฉลี่ย โดยให้ค่าน้ำหนักไปอยู่กับราคาปิดในวันล่าสุดมากที่สุด ซึ่งทำ Indicator EMA สามารถให้สัญญาณแนวโน้มของราคาได้เร็วกว่าแต่ก็อาจเกิดสัญญาณหลอกที่มากกว่าครับ

Simple Moving Average (SMA)

เป็นเส้นคาดการณ์แนวโน้มราคาโดยนำเอาราคาปิดในแต่ละวันมาหาค่าเฉลี่ยเช่นเดียวกันกับ EMA และให้ค่าน้ำหนักของราคาปิดในแต่ละวัน “เท่า ๆ กัน” ซึ่งทำ Indicator SMA เกิดสัญญาณหลอกน้อยกว่าแต่ตอบสนองต่อสัญญาณแนวโน้มของราคาช้ากว่า EMA ครับ

ข้อแตกต่างและจุดควรระวังของการใช้ Indicator EMA และ SMA 

ข้อแตกต่างระหว่าง Indicator EMA และ SMA

เนื่องจาก Indicator EMA และ Indicator SMA มีทั้งข้อดีและข้อควรระวังที่เทรดเดอร์จะต้องระมัดระวังในการใช้งาน โดยสิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องพึงระวังมีดังนี้ครับ

Exponential Moving Average (EMA)

ให้สัญญาณแนวโน้มทิศทางราคาที่ไว แต่อาจเกิดสัญญาณหลอกได้ง่ายกว่า

Simple Moving Average (SMA) 

ให้สัญญาณแนวโน้มทิศทางราคาช้ากว่า แต่แม่นยำและโอกาสเกิดสัญญาณหลอกน้อยกว่า  

 

ดังนั้นแล้วเทรดเดอร์จะต้องเลือก Indicator ให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของตนเอง เพื่อเพิ่มความสามารถของตัว Indicator และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดให้ได้มากที่สุดครับ 

 

Indicator Moving Average Convergence Divergence (MACD)

 

Indicator Moving Average Convergence Divergence (MACD) คืออะไร

Moving Average Convergence Divergence (MACD) เป็นอินดิเคเตอร์ที่ช่วยวัดแนวโน้มทิศทางราคาโดยการนำเอาเส้นของ Indicator EMA จำนวน 2 เส้นมาวัดความเปลี่ยนแปลงของราคาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นทิศทางราคาและแนวโน้มการแกว่งของราคาได้ชัดเจนมากขึ้นครับ ซึ่ง MACD ที่ใช้กันบ่อยจะมีดังนี้

  • MACD คือ ตัวเลขของ EMA(12) ลบด้วย EMA (26)

  • Signal Line คือ ตัวเลขค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ MACD ย้อนหลัง 9 วัน 

  • MACD Histogram คือ ส่วนต่างระหว่าง MACD และ Signal Line 

Indicator Bollinger Bands (BB)

 

Indicator Bollinger Band (BB) คืออะไร

Bollinger Bands (BB) เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดสภาวะของตลาดที่มีแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงราคา โดย Indicator ชนิดนี้มีหลักการทำงานโดยการใช้ Standard Deviation หรือ "SD" ซึ่งจะสร้างกรอบของเส้นราคาทั้งหมด 

เส้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการวิเคราะห์สภาวะของตลาดและพฤติกรรมของราคาที่มีการผันผวนครับ 

ส่วนประกอบของ Bollinger Bands

Upper Bands

คำนวณจาก SMA(20) + 2 เท่าของ SD(20) 

Middle Bands

คำนวณจาก SMA(20) 

Low Bands 

คำนวณจาก SMA(20) - 2 เท่าของ SD(20) 

 

ซึ่งแต่ละส่วนประกอบจะช่วยให้เทรดเดอร์ทราบและวิเคราะห์แนวโน้มของราคา แนวรับ-แนวต้าน การเกิด Break out หรือแม้แต่ระดับความผันผวนของราคาครับ

Indicator Relative Strength Index (RSI)

 

Indicator Relative Strength Index (RSI) คืออะไร

Relative Strength Index (RSI) เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดปริมาณการซื้อที่มากเกินไป (Overbought) และการขายมากเกินไป (Oversold) จากการแกว่งของราคาในตลาด โดยคำนวณจากราคาสินทรัพย์ย้อนหลัง 14 วันและแสดงออกมาเป็นตัวเลขตั้งแต่ 0-100 ซึ่ง Indicator RSI จะช่วยบอกสัญญาณในการ Breakout, บอกแนวโน้มการกลับตัวหรือแม้แต่จุดเข้าซื้อตามสัญญาณของ RSI ครับ

วิธีการอ่านค่า Indicator Relative Strength Index (RSI)

  • หาก RSI มีค่าต่ำกว่า 30 แสดงว่า สินทรัพย์นั้นเกิด “ภาวะขายมากเกินไป” หรือ “Oversold”

  • หาก RSI มีค่าสูงกว่า 70 แสดงว่า สินทรัพย์นั้นเกิด “ภาวะซื้อเกินไป” หรือ “Overbought”

นอกจากการอ่านค่า Overbought และ Oversold แล้ว RSI ยังสามารถที่จะใช้ดูในสัญญาณ Divergence ได้เช่นกัน 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Indicator

 

อินดิเคเตอร์ MACD และ RSI ต่างกันอย่างไร

เป็นอินดิเคเตอร์ที่ช่วยวัดแนวโน้มทิศทางราคาโดยการนำเอาเส้นของ Indicator EMA จำนวน 2 เส้นมาวัดความเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะสั้นและระยะยาว ส่วน RSI เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดปริมาณการซื้อที่มากเกินไป (Overbought) และการขายมากเกินไป (Oversold) จากการแกว่งของราคาในตลาดครับ

อินดิเคเตอร์ที่เทรดเดอร์นิยมใช้ในตลาด Forex มีอะไรบ้าง

  • Moving Average (MA)

  • Moving Average Convergence Divergence (MACD)

  • Bollinger Bands (BB)

  • Relative Strength Index (RSI)

Oversold คืออะไร

Oversold คือสภาวะที่มีการขายที่มากจนเกินไปโดยมีสัญญาณ RSI ที่น้อยกว่า 30 (RSI < 30) ซึ่งมีความหมายว่าปริมาณการขายของสินทรัพย์มีมากเกินไปซึ่งทำให้ราคาสินทรัพย์ลดลง และมีแนวโน้มที่จะเกิดสัญญาณกลับตัวครับ

เมื่อ RSI < 30 สิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องพิจารณา คือ ตลาดสินทรัพย์เกิดสภาวะการขายที่มากเกินไป เทรดเดอร์จึงไม่ควร “ขาย” สินทรัพย์ในช่วงเวลานี้เพราะอาจขายได้ในราคาที่ไม่สูงและพิจารณาหาจุด “เข้าซื้อ” แทนครับ


🔎 บทความที่เกี่ยวข้อง


สรุปเกี่ยวกับ Indicator คืออะไร

Indicator เป็นเครื่องมือสำคัญที่มีส่วนช่วยให้นักเทรด Forex สามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม Indicator เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเทรดเท่านั้น ไม่ได้สามารถทำให้เทรดแล้วได้กำไรทุกครั้งเพราะตลาด Forex มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเทรดเดอร์ควรศึกษา Indicator ที่ใช้อย่างละเอียดและศึกษาตลาด Forex ให้เข้าใจ เพื่อให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ


 

⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

 

หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม

สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com

ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview

ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis

อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers

forex

แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ

tfn
ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

ความรู้ Forex

Forex

Gold

Beginner

Investing

ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

© Copyright Thaiforexreview 2023. All rights reserved