List of content
ในปัจจุบันหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกับคำว่า Forex กันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ แล้วรู้ไหมว่าแท้จริงแล้ว Forex นั้นคืออะไร ในวันนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับคำ ๆ นี้ รวมทั้งไปหาคำตอบว่า Forex มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง แล้วหากเป็นนักลงทุนมือใหม่ควรที่จะทราบเรื่องอะไรเกี่ยวกับ Forex บ้าง บทความนี้จะคลายความสงสัยให้กับทุกท่านครับ
Forex หรือ Foreign Exchange Market คือตลาดแห่งการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดย ตลาด Forex เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาเกร็งกำไรซื้อขายตราสารอนุพันธ์ประเภทต่าง ๆ ที่นักลงทุนคาดการณ์ผลตอบแทนไว้
หากเปรียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ครับคือการที่คุณมีเงิน 30,000 บาท แล้วคุณนำเงินนั้นไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินดอลลาห์สหรัฐมาได้ 1,000 ดอลลาห์ เมื่อเวลาเปลี่ยนส่งผลให้ค่าเงินเปลี่ยนแปลงไปด้วย เป็น 1 ดอลลาห์สหรัฐ : 35 บาท ส่งผลให้เงินที่เราแลกเปลี่ยนไว้ มีค่าเพิ่มมากขึ้นเป็น 35,000 บาท ซึ่งคุณอาจขายเพื่อทำกำไรหรือหากคิดว่าค่าเงินจะเพิ่มขึ้นไปอีกอาจถือเงินไว้ก่อนก็ได้ อย่างไรก็ตามข้อควรระมัดระวังก็คือหากค่าเงินลดต่ำลงกว่า 1 ดอลลาห์สหรัฐ : 30 บาท นั้นหมายความว่าคุณจะขาดทุนครับ
เนื่องจากตลาด Forex ถือว่ามีประสิทธิภาพมากหากเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ที่เทรดกันตลาด Forex จึงเป็นตลาดที่มีจำนวนผู้เล่นและมีมูลค่าการซื้อขายในตลาดสูงเป็นอย่างมาก ผมขอยกตัวอย่างการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของมูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันระหว่าง ตลาดหุ้น กับ ตลาด Forex มาให้ดูนะครับ
จะเห็นได้ว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในตลาด Forex สูงกว่า ตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สูงในโลกอย่างสหรัฐฯ ถึง 200 เท่า โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในตลาด Forex ในแต่ละวันจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นถึงการมีประสิทธิภาพของตลาด Forex ครับ โดยผมขอยกตัวอย่างข้อดีของตลาด Forex มาทั้งหมด 6 ข้อ ดังนี้
1. เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เนื่องจากใช้เงินในการลงทุนค่อนข้างน้อย
2. นักลงทุนสามารถเกร็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ที่จะทำกำไรได้จากมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้กำไรเท่านั้น
3. มีสภาพคล่องสูง เพราะมีการซื้อขายต่อวันสูงมาก
4. ไม่มีตัวกลางของตลาด ทำให้ตลาด Forex ค่อนข้างมีความปลอดภัยตามไปด้วย
5. ตลาด Forex สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ทันที
6. ตลาด Forex ไม่มีค่าธรรมเนียมจากภาษีอากรแสตมป์ เนื่องจากไม่ได้ทำธุรกรรมผ่านตลาดกลาง
แม้ว่าตลาด Forex จะมีการซื้อขายต่อวันเป็นจำนวนมาก และการเริ่มต้นลงทุนที่ใช้เงินค่อนข้างน้อยก็สามารถเทรดได้ แต่ไม่ได้หมายความว่านักลงทุนจะไม่มีความเสี่ยงด้านการลงทุน โดยข้อเสียของตลาด Forex นั้นมีทั้งหมด 4 ข้อ ดังนี้
1. ตลาดมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีความผันผวนเป็นอย่างมาก
2. ความเสี่ยงจากเลเวอเรจสูงอาจทำให้นักลงทุนขาดทุนได้ง่าย
3. การคาดการณ์ราคาของตลาดเป็นไปได้ยาก หากนักลงทุนไม่มีประสบการณ์ที่มากพอ อาจเสี่ยงต่อการขาดทุนได้
4. แม้ว่าตลาด Forex จะไม่มีตัวกลางของตลาด แต่ก็มีความเสี่ยงคืออาจจะมีจุดบอดที่ทำให้โบรกเกอร์สามารถหอบเงินหนีไปได้ด้วย
เนื่องจากเวลาในการซื้อขายบนตลาด Forex นั้นเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุก ๆ 5 วันต่อสัปดาห์และปิดในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งปกติแล้วศูนย์กลางของตลาด Forex หลัก ๆ จะมีอยู่ 4 แห่งที่ใช้ในการแบ่ง Trading Session ดังนี้
เปิดทำการเวลา 22:00 น. และปิดเวลา 7:00 น. ตาม GMT
เปิดทำการเวลา 00:00 น. และปิดเวลา 9:00 น. ตาม GMT
เปิดทำการเวลา 8:00 น. และปิดเวลา 17:00 น. ตาม GMT
เปิดทำการเวลา 13:00 น. และปิดเวลา 22:00 น. ตาม GMT
สำหรับการเทรด Forex จะมีความคล้ายกับการเล่นหุ้น โดยเริ่มแรกต้องมีพอร์ตในการเทรด Forex ก่อนโดยนักลงทุนต้องทำการเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีโบรกเกอร์จำนวนมากที่ให้บริการในด้านนี้ โดยตัวอย่างของโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมในไทยเช่น XM, IUX Markets และ Exness เป็นต้น
เนื่องจากการเทรด Forex สามารถทำกำไรได้ทั้ง 2 ฝั่งไม่ว่าจะเป็น “ขาขึ้น” หรือ “ขาลง” ซึ่งเพียงแค่คุณวิเคราะห์ทิศทางของราคาให้ถูกต้องก็มีโอกาสสร้างกำไรจากการเทรดได้ครับ โดยหลัก ๆ ของการเทรด Forex จะมีคำสั่งซื้อขายอยู่ 2 คำสั่ง ได้แก่
ถ้าเราคาดการณ์ว่าราคาจะ “ขึ้น” เราก็สั่งคำสั่ง Buy
(ซื้อถูก ขายแพง = กำไร)
ถ้าเราคาดการณ์ว่าราคาจะ “ลง” เราก็สั่งคำสั่ง Sell
(ขายแพง ซื้อถูก = กำไร)
โดยส่วนมากโปรแกรมที่ใช้เทรด Forex มักใช้กันอยู่ 2 เครื่องมือคือ MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นโปรแกรมเทรดสากล โดยสามารถคีย์คำสั่งได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยคำสั่งนี้จะถูกบันทึกผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือสมาร์โฟนของเหล่าเทรดเดอร์ หากคุณกังวลในการเทรดก็จะมี EA (Expert advisor) เข้ามาคอยช่วยในการเทรดของคุณ โดยที่คุณไม่ต้องมานั่งมองหน้าจอตลอดทั้งวันครับ